บันทึก ปัจจัตตัง

สวัสดีวันเสาร์สายๆ พลอยศรีบันทึกเรื่องราวที่รู้ได้เฉพาะตน … พลอยศรีคิดอยู่นานจะบันทึกดีหรือไม่ เพราะเรื่องแบบนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องตลกไร้สาระของใครหลายๆคน และพลอยศรีก็ไม่อยากสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับใคร แต่พลอยศรีมีความสุขมากมายกับการรับรู้ และพี่ๆที่ชื่นชอบกันอยากรู้เรื่องราวก็คิดเสียว่าเล่าสู่กันฟังแล้วกัน

เรื่องราวที่คิดว่าเทวดามีจริงและกายทิพย์มีจริงนั้น พลอยศรีคิดว่าพลอยศรีค่อนข้างมั่นใจมากๆ โดยที่พยายามแล้วว่าไม่ได้มโนไปแต่อย่างใด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลอยศรีได้รับรู้หรือสัมผัสเข้าให้จังๆ

สืบเนื่องมาจากพลอยศรีจะสวดมนต์บ่อยๆ แน่นอนว่าเราเป็นชาวพุทธเรามักได้ยินได้ฟังมาตลอดว่า พระเกจิ พระอาจารย์ทั้งหลายเวลาที่ท่านไปปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆท่านมักจะพบกับเทวดา อาจจะมาร่วมฟังธรรม หรือมาสนทนาธรรมก็ตามแต่กันไป

พลอยศรีเป็นคนที่ยังไม่มีภูมิธรรมอะไรแก่กล้าขนาดจะได้สนทนากับเทวดาขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เราได้ยินได้ฟังมาตลอดว่าเทวดามีนะ พลอยศรีก็นะ ไม่อยากจะเชื่ออะไรโดยไม่รู้ ไม่เห็น หรือเชื่อตามๆส่งๆไป เค้าก็ว่ากันว่าของแบบนี้นะเมื่อถึงเวลาจะพบเอง

พลอยศรีเคยได้รู้ได้ฟังมาเสมอห้องพระหิ้งพระทำให้สะอาด เวลาสวดมนต์เทวดาจะมาร่วมสวดด้วย แต่บ้านของพลอยศรีตอนนี้เราไม่มีห้องพระที่สงบเงียบ แต่พลอยศรีตั้งไว้ในบ้านชิดข้างฝาตรงชั้นหนังสือ และก็นั่ง นอน เดิน พลุกพล่าน ไฟส่องสว่างอยู่กลางบ้านทุกวัน ถึงบ้านจะมีหลายห้องแต่เราก็ทำเป็นห้องนอน ห้องรีดผ้าเก็บของไปหมดทุกที่ ไม่ได้คิดอะไรตอนแรกก็คิดแค่ตั้งไว้ตรงชั้นนี้แหละมีที่ว่างอยู่

ทีนี้เวลาสวดมนต์ พลอยศรีก็มานั่งสวดตรงโต๊ะกินข้าวนี่แหละ ก็เพราะอยู่ใกล้ๆหิ้งพระ เวลาสวดมนต์เนาะ พลอยศรีก็จะบอกเทวดาประจำบ้าน ประจำตัวว่า ขอเชิญท่านมาร่วมสวดมนต์ด้วยกัน สวดมนต์เสร็จก็แผ่เมตตาอนุโมทนาบุญกันอยู่ตรงนี้แหละ ก็ทำทุกๆวัน

อะไร คือสิ่งที่พลอยศรีสัมผัสได้ ว่าเทวดามาจริงๆ คือหลายๆครั้ง ที่พลอยศรีสวดมนต์ ถ้าพลอยศรีอยู่คนเดียวทีไรจะรู้สึกว่า มีลมวูบมาวูบไปเย็นวาบตอนที่เราสวดมนต์ หรือทำสมาธิ และสักพักก็จะได้กลิ่นที่หอมมาก หอมจุนฉุนแสบจมูกแบบ เอาให้รู้กันไปเลยไม่ต้องสงสัยว่ากลิ่นอะไร ให้หลับก็ตื่น แรงขนาดนั้น

ด้วยความที่กลิ่นหอมมากสมัยก่อนๆ พลอยศรีไม่รู้ก็ทักไปเรื่อย เอ๊ะกลิ่นอะไร กลิ่นอะไร และเดินถามทุกคนที่อยู่ข้างเคียง แต่ไม่มีคนเค้าได้กลิ่นกับเรา บางทีแม่หรือผู้ใหญ่ก็จะบอกอย่าทักอะไรทำนองนี้ พลอยศรีก็เลยเฉยๆไป … และที่บ้านหลังนี้ก็หลายครั้งที่ได้กลิ่น เราอยู่คนเดียวก็เลยไม่ได้ถามใครแต่ก็เดินสูดไปทั่วบ้านเช่นเดียวกัน

แรกๆพลอยศรีเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่บางครั้งก็ถามพระน้อง ถามพระอาจารย์หลายๆท่าน ท่านก็บอกว่าไม่ต้องไปสงสัยอะไร ของที่เราว่ามองไม่เห็นไม่ใช่ว่าไม่มี ไม่ต้องไปยินดีอะไร เทวดาก็อยากเกิดเป็นมนุษย์เพื่อมาปฏิบัติธรรม แต่เมื่อเราทำดีแล้ว ระลึกถึงแผ่บุญกุศลไปเทวดาก็จะมาคุ้มครอง

เราก็ฟังมาและน้อมปฏิบัติตามเรื่อยมาไม่สงสัย เพราะว่าพระอาจารย์เคยกล่าวไว้ พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วท่านไม่พูดโกหกหรอกโยม ถึงแม้ท่านโกหกก็เรื่องของท่าน เราไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ถ้าตกนรกเราก็ไม่ได้ไปตกกับท่านนะ เราก็ปฏิบัติส่วนของเราไปนะโยม เป็นคนดีเสียอย่างเดียว แล้วทุกสิ่งจะดีตาม พลอยศรีก็รับฟังมา

ทีนี้พอถึงเวลาสวดมนต์พลอยศรีก็เช็ดโต๊ะทุกวัน โดยมโนไปว่า เดี๋ยวเทวดา หรือ เทพ พรหมจะมานั่ง ใครจะมาก็ช่าง เราทำที่ไว้ให้สะอาด เค้าจะได้นั่งกันสบาย เพราะพวกเค้าน่าจะชอบสะอาดๆนะ ปกติบ้านพลอยศรีอยู่กันสองคน ก็ตามสบาย วางเต็มที่ เกลื่อนกลาดยิ่งถ้าผู้ชายอยู่ยิ่งเลอะเทอะ แต่พลอยศรีก็ปล่อยไปไม่บ่น แต่พอสวดมนต์ก็จะเก็บๆหน่อย และถ้าผู้ชายอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พลอยศรีก็ย้ายไปโซฟา และเก็บๆหมอนให้เรียบร้อย ก็เชิญนั่งให้ตามสบายว่ากันอย่างนั้นเถอะ “มโนของเราไป”

ทีนี้เมื่อคืนเอาอีกแล้ว พลอยศรีอยู่คนเดียว เพราะผู้ชายไปต่างประเทศ ได้เวลาพลอยศรีก็สวดมนต์ประจำวัน ก็เช็ดโต๊ะเรียบร้อย และก็บอกเชิญว่า ขอเชิญเทวดาและเทพพรหมที่อยู่ทั่วบริเวณ และเทวดาประจำตัวมาร่วมสวดมนต์กัน

เวลาที่สวดไป แน่นอนเราหนาว ลมพัดวูบมาวูบไป เราก็หันไปมองที่ระเบียงปกติ เพราะบ้านพลอยศรีลมพัดอยู่แล้ว เพราะเปิดกระจกกว้าง แต่คือลมมา ม่านไม่ปลิว ปกติถ้าลมมาหนาววูบแบบนี้ คือลมพัดม่านจะปลิวและจะต้องลุกไปปิด เหมือนฝนจะมา เนื่องจากกลัวเดี๋ยวราวม่านจะพังร่วงลงมา ..

เมื่อมอง ม่านนิ่ง ก็นิ่งเฉย ก็หลับตารวบรวมสมาธิและก็บอกว่า เชิญนั่งค่ะ เชิญนั่งกันให้ตามสบาย และพลอยศรีก็ไม่รู้มากันมากน้อย เพราเรามีโต๊ะแค่ห้าหกตัว ก็เลยบอกว่านั่งได้ทุกที่ค่ะ และก็สวดมนต์ต่อไป  

ขณะที่สวดนั้นพลอยศรีก็เลวมาก คือ ท้าทายอีกแล้วลองของ ปากก็สวดนะ แต่ใจก็บอกว่า หากพวกท่านมาร่วมกันสวดมนต์ ขอให้แสดงให้ข้าพเจ้ารับรู้ เอาจริงๆ คือไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ชอบท้าทายไปเรื่อย แต่มันอยากรู้จริงๆไง แต่ทุกอย่างนิ่งสนิท ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จบไป และก็คิดว่า ไม่มีอะไรหรอก แค่ลมน่ะ อย่าไปใส่ใจเลย ท่านไม่มากันหรอก (นี่ คือ เลวครั้งที่สอง ฮ่า ฮ่า ยั่วไป) ถึงเวลาก็แผ่เมตตาปกติ สวดมนต์ตอนสามทุ่ม

ทุกอย่างเรียบร้อย ก็จบไปง่ายๆพลอยศรีก็มานอนดูละครเปาปุ้นจิ้น ขณะนั้นประมาณตีหนึ่งครึ่งกว่าๆแหละ อยู่ๆกลิ่นน้ำหอมมาเลย มากันแสบจมูกมาก พลอยศรีก็ตกใจนะตอนนั้น ณ ตอนนั้นไม่คิดหรอกว่าเทวดา ทวยเทพอะไร ณ ตอนนั้น คิดว่าขโมยแอบเข้าบ้านหรือเปล่า หรือยามแอบเข้ามาเพราะรู้ว่าเราอยู่คนเดียวก็เป็นได้ เพราะไม่เห็นผู้ชายหลายวัน

กลิ่นหอมแบบน้ำหอมแรงรอบตัวไปหมดทั้งๆที่ไฟสว่างทั่วบ้าน พลอยศรีก็เลยลุกสิ มองทั่วๆ โล่ง เงียบ มีแค่เสียงละคร ทีนี้ก็คิดและ เห้ย ในห้องนอนเราไม่ได้ปิดหน้าต่างเหรอ แต่ไม่นะ ตั้งแต่ผู้ชายไม่อยู่เราปิดแน่นหนาเลย เพราะก็กลัวเดี๋ยวคนปีนเข้ามา จริงๆช่องเล็กมาก ปีนเข้าไม่ได้ ถ้าพยายามก็จะเสียงดังมาก แต่อยู่คนเดียวจะมโนว่า อาจจะปีนได้ จึงปิดล๊อคหมด ถ้าผู้ชายอยู่จะเปิดเพราะระบายอากาศ

ใจเต้นแรงมาก ณ ตอนนั้น เพราะคิดว่า คนปีนเข้าและคนนั้นฉีดน้ำหอมแรงมาก เราก็เดินไปด้วยใจกล้า เข้าห้องนอนเปิดไฟ ไม่มีอะไร เดินไปที่ห้องน้ำ เปิดไฟไม่มีอะไร แต่กลิ่นหอมแสบจมูกอยู่รอบตัวเรา ใจเต้นระรัวเพราะต้องเปิดตู้เสื้อผ้า มองที่หน้าต่างคือ ปิดอยู่เหมือนเดิม แต่คิดไปว่าคนอาจเข้ามาและปิด และซุกในตู้ … คิดหนักจะเปิดไม่เปิด แต่ก็ใจกล้าเปิด ไม่มีอะไร

เดินออกมาที่ห้องน้ำกลางบ้าน เปิดไฟดูคิดไปหมดคนจะซ่อนอยู่หลังม่านอาบน้ำ แต่หน้าต่างปิด… กลิ่นก็ตามเราจนเราเดินไปห้องนอนริมสุดอีกฝั่ง ซึ่งไม่มีหน้าต่างน้อยให้ปีนเข้ามาได้จากภายนอก กลิ่นยังอยู่ไม่จางหาย

เดินมาที่ระเบียง แหงนมองบนล่าง ซ้าย  ขวา เผื่อคนบ้านอื่นฉีดน้ำหอมแรง มายืนรับลม และลมพัดมาบ้านเรา แต่คือเงียบสงบ มีแต่เราไปยืนชะเง้อมอง และกลับไม่มีกลิ่นที่ระเบียงแต่อย่างใด … กลับมานั่งที่โซฟา เราก็บอกว่าเทวดาทวยเทพมาใช่ไหม ถ้าเกิดพวกท่านมาจริงๆ โดยที่มิได้คิดไปเอง ขอให้แสดงให้รับรู้อีกที จะได้ปลื้มใจ

เท่านั้นแหละ ลมผ่านหลังคอวูบ คือ เย็นดี มันวูบแบบไวมากๆ มองม่านนิ่งสนิทเหมือนเดิม ก็เลยแผ่เมตตาให้ไปปกติ และก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียว เพราะรับรู้ว่า อืมพวกเค้ามากันจริงๆนะ ก็นั่งยิ้มไปและพลอยศรีก็ดูละครไป

ทีนี้พอจะต้องไปอาบน้ำ พลอยศรีก็ทำยังไงดี คือจะต้องอาบน้ำไง แต่รู้สึกว่ายังอยู่กันแม้กลิ่นจางๆ ก็เลยบอกว่าทราบแล้ว เชิญท่านกลับกันเถอะ พลอยศรีจะแก้ผ้าอาบน้ำ คือไม่สะดวกที่จะเข้าไปอาบน้ำ ณ ตอนนั้น ฮ่าๆ และก็นั่งรอนะ รอจนเกือบตีสาม กะว่าไปและ ไม่มีอะไร เดินไปมาบ้านเงียบเหมือนเดิมกลิ่นปกติ

พลอยศรีคิดแล้วนะ จะไม่เล่ามากมาย มันเป็นเรื่องที่คนสัมผัสไม่ได้ก็จะว่าเราบ้า ไร้สาระ แต่พลอยศรีทดลองมาหลายครั้ง อธิฐานจิตอะไรเดี๋ยวจะได้ … และพลอยศรีสังเกตมาตลอด ถ้าผู้ชายอยู่จะไม่รับรู้ได้ คงเป็นเพราะ ผู้ชายมักจะทำประหนึ่งว่าบ้านนี้ปลอดภัย เค้าสามารถเดินทั่วบ้านได้ไร้เครื่องห่อหุ้มกาย พลอยศรีก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็เราอยู่กันสองคน บางทีเค้าก็มานั่งทำงานหน้าหิ้งพระแบบนั้น

พลอยศรีก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะคิดว่าพระท่านอยู่สูงกว่านั้น ท่านแยกแยะของท่านเอง ก็ปล่อยไปเพราะพลอยศรีไม่อยากมาบ่นทะเลาะกันด้วยเรื่องที่เค้าอาจมองว่าตลก และมาเป็นประเด็นให้ขุ่นเคืองใจกัน พลอยศรีเอาสะดวกใจ สะดวกกายผู้อยู่ อยู่แบบไม่บ่น ไม่ทะเลาะกันใดๆทั้งสิ้น

มาพักหลังๆ เมื่อเราเชิญเทวดาบ่อยๆ เราก็สัมผัสได้บ่อยเข้า ก็มีบอกผู้ชายบ้างว่า เธอใส่ผ้ามาให้เรียบร้อยหน่อย ก๊อดวิ่งหนีหมดแล้วเค้าก็จะหัวเราะ และยิ่งเดินส่ายไปมา … พลอยศรีก็เลยบอกว่าหลบกันเองนะท่าน ฮ่า ฮ่า

ก็เลยสังเกตมาตลอด ถ้าเราอยู่คนเดียว แล้วเราเรียกหา เราจะรับรู้ได้ ไม่ได้มาให้เห็นเป็นร่างกายเดินไปมา แต่มาแบบหอม จนฉุนมาเลย มาแบบคนฉีดน้ำหอมแสบจมูกมาเลย และถ้าเราทำอะไร เดินไปไหนก็จะมีกลิ่นหอมตามเราอยู่อย่างนั้น และถ้าเราขอยืนยัน เดี๋ยวจะมาแบบอื่นให้รู้ว่าไม่ใช่มโน และพลอยศรีก็จะยิ้มแป้นไป

พลอยศรี ว่าเราก็แบ่งบุญกัน ชวนกันทำบุญ เทวดาก็อยากเป็นมนุษย์จะได้ๆปฏิบัติธรรมให้บรรลุมรรคผลไป ส่วนมนุษย์ก็อยากจะไปเป็นเทวดา อยากไปอยู่ในที่เทวดาอยู่ พลอยศรีก็ไม่ได้ตื่นเต้น โลดโผนอะไร เพราะพระท่านกล่าวไว้ว่า เทวดา ก็คือ อดีตมนุษย์ที่ปฏิบัติดี ตอนอยู่ และคิดดีตอนจะสิ้นใจ ก็เลยไปเป็นเทวดาไม่ต้องไปตกนรก ส่วนเราเป็นมนุษย์อยู่ ก็ปฏิบัติดีไป หมั่นฝึกฝนเผื่อไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก และไม่ต้องเป็นเทวดาด้วย ทำได้เท่าไหนไม่รู้ ตัวเราจะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง อิอิ

เดี๋ยวนี้เปิดโทรศัพท์ไปและเจอคลิปด่ากันแรงๆ หรือพูดจาหยาบๆคายๆ สิง สา ราสัตว์ออกมาเป็นฝูงพลอยศรีจะรีบปิดทันที ไม่ดู รู้สึกว่า ดูไปเราก็ซึมซับ และมาพูดจา หยาบๆคายๆ เรานั่งฟังอยู่ก็เหมือนเราฟังเค้าด่าเรา เทวดาประจำบ้าน ประจำตัวก็คงไม่ปลื้มเช่นกัน กดผ่าน กดปิด ไม่ยินดี ยินร้าย คิดเสียว่า บ้านเรา ควรเป็นที่ๆทวยเทพอยู่ เลือกดู เลือกฟัง แต่สิ่งที่เป็นมงคล มงคลก็รักษาเรา ยิ้มกว้างค่ะ อิอิ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s