“ฮึ่ม ขายแพงนัก เดี๋ยวทำกินเองก็ได้วะ” เสียงก้องอยู่ในหัวของพลอยศรีเมื่อสอง สามวันก่อน ทำไมน่ะหรือ ก็พลอยศรีสไตล์ไง งก คือว่าพลอยศรีได้ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวและทีนี้เห็นร้านหมูปิ้ง เค้าติดป้ายไว้ว่าสามไม้สิบริงกิตพลอยศรียืนชั่งใจอยู่นานเลยจะกิน หรือไม่กิน
คือมัน กินๆก็จบไปไม่เห็นแพงอะไร ได้ตั้ง3ไม้ แต่พลอยศรี รู้สึกว่า ไม่ทันอิ่มอะไรก็หมดเงินไปแล้วเป็นสิบๆริง ไม่เอาดีกว่า มันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เดินไปซื้อหมูในห้างถัดไปอีกนิดเดียว หนึ่งกิโลทำได้เป็นสิบๆไม้ กินให้หายอยากไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ข้าวเหนียวหนึ่งกิโล กินตายกันไปข้างนึงเลยทีเดียว
คิดเสร็จ ไม่กิน ไม่ซื้อ เดินกลับมาที่รถและขับไปห้างทันที เดินตรงไปที่ขายหมู กะว่าจะซื้อสักหนึ่งโล แต่แหมพอเดินถึงที่ขายหมู ดันมีแต่ขาหมู กระเพาะหมู หูหมู หมูสามชั้น หมูเนื้อแดง ตับหมู หัวใจหมูพร้อม แต่วันนี้ไม่มีมันหมูสักแพ๊ค แหง่วๆ
ถ้าทำหมูปิ้ง แล้วไม่ใส่มันหมูสักหน่อยหมูก็คงแข็งๆ กินไม่อร่อยแน่ๆ จะทำสักทีขาดๆเกิน ไม่ใช่อาหารจานเดียวที่กินอิ่มแล้วจบไป แต่นี่ทำแล้วเก็บไปได้นาน ก็เลยตัดสินใจ กินไก่ย่างก็แล้วกันวะ คราวหน้าถ้าอยากค่อยว่ากันใหม่ คิดและก็เดินออกจากโซนหมูไป
พลอยศรีเดินไปดูแผนกไก่ เลือกไม่ถูกเลยจะเอาส่วนไหนดี จะใช้อกก็จะแข็ง จะใช้ตรงไหน มองๆอยู่นาน และก็เห็นสะโพกไก่ ที่แพ๊คเขียนติดไว้ว่า(Thigh) พลอยศรีมองๆอยู่ อืม ส่วนนี้ น่าจะนิ่มๆดีมีหนังไก่ติดด้วย ได้เนื้อได้หนัง ก็เลยซื้อมา หนึ่งกิโลกว่าๆ และก็เดินไปหยิบผักชีหนึ่งกำ บึ่งกลับบ้านทันที
วันนี้เราจะทำไก่ปิ้ง ข้าวเหนียวนึ่ง ฮึ่มจะกินให้หายอยากไปเลย คิดในใจขณะขับรถกลับบ้าน อยากแพงนัก ชิชะ 3ไม้10 ริงกิต นี่ซื้อไก่มาหนึ่งกิโล 14 ริงกิตเอง ถ้าเป็นหมูที่ดูไว้ กิโลนึงก็แค่30 ริงกิต กว่าๆเอง คงได้หลายสิบไม้เลยเถอะ …
ไม่ได้เงินชั้นหรอกแกรเอ้ย แอบกระหยิ่มยิ้มย่อง ฮ่า ฮ่า แต่ก็เข้าใจของซื้อขาย ของทำมาหากิน ถ้าไม่ได้กำไร จะมาทำๆไมให้เหนื่อยเล่า แต่เราต่างหากที่ต้องรับผิดชอบเงินในกระเป๋าตัวเอง ฮ่า ฮ่า
กลับมาถึงบ้าน จัดการเลาะๆเนื้อไก่ กระดูกไก่ที่มีติดมาเล็กน้อย หั่นๆ แล้วก็เตรียมเครื่องหมักพื้นฐาน กระเทียม พริกไทย รากผักชี จากนั้นเหรอ ก็เครื่องปรุงก้นครัวบ้านเรานี่แหละ ไม่ได้ใส่อะไรพิเศษพิสดารเลย พลอยศรีทำง่ายๆ เพราะเราทำกินเอง ผงปรุงรส รสดี ผงชูรสอะไรไม่ได้ใส่ลงไปสักนิดเดียว ใส่ซอสพื้นๆ แต่หนัก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เพราะพลอยศรีว่า ปิ้งๆจะอร่อยๆต้องหวานๆหน่อย พลอยศรีชอบแบบนี้

วันนี้ก็เวรกรรมนะ จะใช้รากผักชี ดันมีผักชีสดๆสวยงาม แต่ไม่มีรากผักชี ก็ผักชีในห้างนะ ตัดทำความสะอาดสวยงาม มีแต่ใบเขียวสด รากอะไรตัดทิ้งให้เรียบร้อย ฮ่า ฮ่า พลอยศรีก็ไม่ไปวิ่งหาตลาดอื่นหรอก ก็ตำมันทั้งต้นเลย มีอย่างไร ใช้อย่างนั้นนะ หอมเหมือนกัน แต่ก็สีจะเขียวๆหน่อย อิอิ
พลอยศรีใช้เวลาทำไม่นานอะไร เครื่องหมักสำหรับไก่หนึ่งโล แต่ทำไม่หมด เหลือไว้หนึ่งสะโพก ก็หยิบกระเทียมจีนมาแกะหัวครึ่ง ผักชีต้นโตๆหนึ่งต้นใบหนามาก และพริกไทยหนึ่งช้อนแกง ใส่ครกโขลกจนละเอียดดี และก็ตวงซอสหอยนางรม 1 กระบวยน้อยๆ ซีอิ้วขาว 1 กระบวย น้ำตาลทราย 1 กระบวย เกลือ1/2ช้อนแกง น้ำตาลปี๊บ 2 กระบวย ให้หวานๆเงาๆหน่อย แป้งข้าวโพด 1ช้อนแกงพูนๆ และอยากให้นุ่มนิ่มดี ได้ชื่อไก่ย่างนมสด เลยเพิ่มนมสดไป 1 กระบวย (ใส่ทุกอย่างเท่ากันหมด เพิ่มแค่น้ำตาลปี๊บอีกเท่าตัว)


พลอยศรีก็ทำง่ายๆ บ้านๆ ใครที่อยากอร่อยมากอีกหน่อยก็ใส่เครื่องปรุงรส ผงนัวต่างๆได้เลย พลอยศรีผ่านส่วนนั้นไป เพราะเราไม่ได้ทำไปขายให้ใคร คิดว่าก็ทำง่ายๆแบบนั้นแหละพลอยศรีกินได้แล้ว พอเราเตรียมเครื่องปรุงต่างๆผสมให้เข้ากันดี ชิมรส หวานๆนำ พลอยศรีก็เอาไก่ใส่ลงไปเลย และเอากระบวยนั้นคนๆอยู่พักนึงให้มันเข้ากันดี

น้ำเริ่มซึมเข้าเนื้อ ไก่ก็จะฟูๆหน่อยเมื่อกวนไปสักพัก ก็เอาพลาสติกห่ออาหารคลุมเข้าตู้เย็นไว้ 3ชั่วโมง และก็เอาออกมาเสียบไม้เก็บเข้าช่องแช่แข็ง จะหมักค้างคืนไปเลยก็ได้ และเสียบตอนเช้า แต่พลอยศรียังไม่นอน เลยดูหนังไปเสียบไป
เสียบไม้ได้มากเลย เห็นแล้วก็ปลื้มใจ เดี๋ยววันถัดไป หรือวันไหนๆที่เราอยากกินก็เอาออกมาปิ้ง ง่ายจะตายไม่ต้องไปเสียเงินมากหลายสิบกว่าจะอิ่ม หรือหายอยาก…. พลอยศรีทำไปก็มีความสุขนะ เวลาทำเห็นผล แบบอุ้ยเราไม่ต้องเสียเงินเยอะ หัวใจก็จะพองๆฟูๆ ฮ่าๆ
ทำเสร็จแล้วก็เก็บใส่ถุง ถุงละ5ไม้ เพื่อความสะดวกเวลาที่เราจะหยิบออกย่าง เพราะย่างแค่ทีละ5ไม้ก็พอกินแล้ว แต่ถ้าใส่รวมกันไปถุงเดียว เวลาจะแกะมาย่างก็จะลำบากหน่อยเพราะมันแข็งติดกัน เอาออก เอาเข้า บ่อยๆคงไม่ดีนัก ทำง่ายๆแบบนี้ดีกว่า ใส่ถุงละแค่พอกิน


พลอยศรีทำได้ทั้งหมด 20ไม้ ไม่เลวนะ วัตถุดิบก้นครัวอยากกินเมื่อไหร่ก็หยิบออกมาปิ้งกิน ถ้าไปซื้อสำเร็จแล้วคงต้องจ่ายเงินโขอยู่ ตอนนี้มีไก่แช่อยู่ พร้อมกินเมื่อยามหิว หรือขี้เกียจทำอาหารอะไร ก็จะสะดวกมาก …
คิดไว้อีกสักพักเมื่อไก่หมดแล้ว ก็จะไปซื้อหมูมาทำเก็บไว้แบบนี้ เพราะห้างในเมืองที่พลอยศรีไปประจำทุกวันเสาร์มีมันหมูแพ๊คใหญ่วางอยู่ตลอด… ทำๆเก็บไว้ ไม่กินมันก็นอนพักผ่อนไป อยากกินเมื่อไหร่ ก็มีกิน นี่คือดีข้อดี อิอิ พลอยศรีชอบ

วันนี้พลอยศรีนำออกมาปิ้งหนึ่งห่อ คือดี กินกับข้าวเหนียวนึ่ง แตงกวานิดหน่อยเป็นผัก อิ่มมาก กินไปแค่3ไม้ก็ไปไม่ไหวแล้ว เพราะทำไม้ใหญ่มากเนื้อๆทั้งนั้นเลย อีก2 ไม้พลอยศรี คิดว่าเก็บไว้มื้อค่ำ หรือไม่ก็นำไปใส่สลัดผัก หรือไม่ก็ข้าวผัดไก่ปิ้ง มื้อต่อไป… ตามแต่จะคิดได้
พลอยศรี จับโยนเข้าเตาปิ้งไปเลย และไม่ได้คอยป้ายคอยปัดน้ำกะทิขณะที่ปิ้ง เพื่อความเงาวาวดูชุ่มชื้นแบบที่ร้านทำขายกัน ใส่ไปแล้วก็ทิ้งเลย เพราะกะทิไม่มีที่แกะใช้แล้ว จึงไม่อยากไปแกะมาแค่ใช้เพียงนิดเดียว แต่ผลที่ออกมาก็ไม่ได้แข็ง หรือไม่น่ากินแต่อย่างใด


อร่อย นุ่ม มีความหอมผักชี มีความหวานละมุน มีความสุขเมื่อกัดกิน กินไม่กลัวหมด กินไม่เสียดายเงิน รสชาติสำหรับพลอยศรี พอใจมากแล้ว ไม่เค็มโดด ไม่หวานโด่ ทุกอย่างดันกันกำลังดี เผ็ดพริกไทยที่ปลายลิ้น พอใจมากค่ะ
พลอยศรีว่าแค่เราทำแบบง่ายๆ เวลามันหมักเข้ากันดีก็หอมอร่อย ยิ่งหมักค้างคืนไปเครื่องปรุงพื้นฐานก็ซึมเข้ากันดี บางคนบอกต้องใส่ผงปรุงรสต่างๆ ต้องใส่สารเพิ่มนุ่ม ต้องใส่สีให้มันเหมือนร้านค้าที่ขายกัน ก็ว่ากันไปตามความชอบของแต่ละคน แต่สำหรับพลอยศรี ไก่ไม้นี้นุ่มดีแล้ว หอมอร่อย หวานๆ เค็มๆดีแล้ว ฮ่า ฮ่า แค่นี้ก็มีความสุขมากมายแล้วค่ะ ยิ้มกว้าง