เฮโหล…ทุกๆคน วันนี้พลอยศรีมีเรื่องมาเล่าค่ะ เนื่องจากว่า สองสามวันที่ผ่านมาพลอยศรีมีกิจกรรมประจำปีที่ต้องทำ และเมื่อผ่านพ้นไปแล้วก็ถึงกิจกรรมเฉลิมฉลองค่ะ นั่นก็คือ การทานเค้ก แต่ว่าปีนี้เราไม่ซื้อเค้กพลอยศรีห้าวหาญทำเค้กเอง และเค้กที่พลอยศรีตัดสินใจทำก็คือ เค้กชิฟฟ่อนส้มค่ะ
อยากเล่ามากมายว่าการทำเค้กครั้งนี้เป็นอะไรที่สนุกแบบ ความดันจะขึ้น เพราะว่าต้องลุ้นกันจนตัวโก่งว่ามันจะล่ม หรือว่ามันจะรอด ฮ่ะฮ่ะ …. คือ ตัวพลอยศรีเองนั้นก็ทำเค้กกินค่อนข้างบ่อยแต่ว่าทุกครั้งที่ทำ พลอยศรีจะพยายามหลีกเลี่ยงเค้กที่ชื่อว่า ‘ ชิฟฟ่อน’ เพราะเจ้าชิฟฟ่อนนี้พลอยศรีเคยฝึกทำหลายหนแล้วค่ะ เมื่อหลายปีก่อนแต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ เพราะทำทีไรมักจะมีปัญหาทุกที นั่นคือ เค้กยุบตัว
เมื่อฝึกทำหลายที ก็มีปัญหาทุกที พลอยศรีจึงตัดสินใจ เลิกทำไปเลย แต่จะหันไปทำเค้กสปันจ์ เค้กเนยสด หรือ พวกบราวนี่แทน เพราะพวกนี้ทำทีไรก็จะนุ่มนิ่ม เป็นที่พอใจทุกครั้ง คือ ไม่ล่ม ทำให้ใครกินก็ได้รับคำชม ก็เลยคิดว่า โอเคฉันอ่ะเหมาะกับการทำสปันจ์ เพราะมันแค่ตีให้ขึ้นฟู ยังไงก็รอด ฮ่ะ ฮ่ะ
เออออ!!!! และทำไม ถึงทำชิฟฟ่อนและไม่สำเร็จล่ะ อันนี้ก็ไม่เข้าใจ แต่พออ่านพวกรุ่นพี่ รุ่นน้องกูรูทั้งหลายเค้ามักจะบอกว่า สาเหตุที่ชิฟฟ่อนยุบตัว เป็นเพราะ หนึ่ง ตีไข่ขาวตั้งยอดไม่แข็งพอ หรือ ถ้าแข็งเกินไปก็ทำให้ขนมเป็นฟองอากาศไม่สวยงาม และ สอง คือ ตั้งอุณหภูมิความร้อนไม่เสถียร และแอบเปิดดูเมื่อขนมยังไม่สุกดี … นี่แหละสาเหตุที่จะทำให้ขนมยุบตัว
พลอยศรีก็ฝึกไปฝึกมา และเลิกฝึก แบบห่างหายไปเลย และเมื่อวานผู้ชายของพลอยศรีชวนกินเค้ก โดยที่เค้าเดินมาถามพลอยศรีว่า “ไหนเค้ก” และก็ทำท่าตลกๆแบบกินเค้กกลางอากาศให้พลอยศรีดูและเราก็ขำกัน … พลอยศรีเห็นและก็เอ็นดูในความตลกเลยตัดสินใจค้นตู้ดู ว่าพอจะมีอะไรให้ทำได้บ้าง
คิดว่าจะทำสปันจ์และกัน แต่ปรากฎว่า พอไปค้นลังสำหรับทำขนม พลอยศรีไม่พบสารที่เรียกว่า SP อ้าว ตายและมันหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และทีนี้จะทำไงดี ถ้าไม่มี SP ก็ทำเค้กไม่ได้ …. แต่มันตั้งใจไปแล้วว่าอยากทำเค้ก และในเมื่อมันไม่ได้ทำ โอ้ว มันไม่สบายใจ ฮ่ะฮ่ะ โอเค พลอยศรีก็ค้นตำราเดิมมาเปิดดูว่ามีอะไรที่ทำโดยไม่ต้องใช้SP ได้บ้าง และมันก็กลับมาที่ชิฟฟ่อนตัวเดิมที่ไม่ต้องใช้
เอาวะ ตัดสินใจลองอีกสักครั้ง เป็นไงเป็นกัน ห้าวเต็มที่ เมื่ออยากต้องได้ทำ เมื่อตั้งใจต้องได้ลอง ฮ่าฮ่า เตรียมอุปกรณ์มาตั้ง เรามีครบทุกอย่าง แล้วปลอบใจตัวเองเบาๆว่า คราวนี้ต้องทำได้สิ อิอิ วันนี้ทำชิฟฟ่อนส้มและกัน เพราะค้นตู้ดูและก็ไม่มีอะไร นอกจากน้ำส้มซันควิท เราก็ทำมันในสิ่งที่มี ว่าและลงมือ คริคริ
กางตำราทำ และพลอยศรีก็ไม่ได้ถ่ายรูปตอนเตรียมอุปกรณ์ เพราะไม่รู้จะบันทึกดีไหม สองจิตสองใจเพราะตอนนั้นเหมือนยังกล้าๆกลัวๆ แต่พอลงมือไปแล้ว ก็คิดว่า เอาวะ ถ่ายก็ได้เผื่อถ้าออกมาดีก็บันทึกไว้ ไม่ดีก็ลบทิ้งไปไม่เสียหายอะไร ถ้าดีบันทึกไว้ คราวหน้าจะได้มาเปิดดูเพื่ออ้างอิงไม่ต้องไปค้นสูตรอีก เรามีที่นี้แล้ว อิอิ
สูตรเค้กชิฟฟ่อนส้ม
- แป้งเค้ก 115 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย(1) 75 กรัม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำส้ม 83 กรัม
- น้ำมันพืช 45 กรัม
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย(2) 75 กรัม
- ครีมออฟทาทาร์ ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
- ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ รวมกัน 3 ครั้ง แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปในแป้งที่ร่อนแล้ว
- นำไข่แดง น้ำส้ม น้ำมันพืช ใส่รวมลงไปในกะละมังแป้งที่ร่อนแล้ว ใช้ตระกร้อมือคนให้เข้ากัน
- นำไข่ขาว น้ำตาลทราย(2) ครีมอ๊อฟทาทาร์ ใส่รวมกันในโถปั่น แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุดให้เป็นครีมตั่งยอดแหลมแบบไม่อ่อน ย้อย
- นำส่วนผสมข้อ (3) มาผสมกับข้อ (2) อย่างเบามือ โดยค่อยๆแบ่งผสมทีละน้อย และคนพับไปมาจนเข้ากัน
- เมื่อเข้ากันดีแล้ว เทใส่ถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข แล้วนำเข้าอบที่ไฟ บน ล่าง 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-40 นาที หรือ จนกว่าขนมจะสุก
ข้อ 1+ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 4 ข้อ 5 อบ 40 นาที
*** วิธีการเช็คขนมว่าสุกหรือยัง มี 2 วิธี คือ (1) เมื่อครบเวลาให้ลองเอาไม้ปลายแหลมปักลงไปตรงกลาง แล้วชักออกมาดูว่า มีเศษขนมติดออกมาหรือไม้ ถ้าชักมาแล้วไม้สะอาด แปลว่าสุกดีแล้ว นำออกจากเตาได้ (2) คือ เมื่อครบเวลา ได้กลิ่นหอมมองเห็นขนมเหลืองดี ลองเอาปลายนิ้วแตะดูที่ตรงกลางขนม ถ้าแห้งและเด้งตัวกลับมา ไม่ยุบ ไม่แฉะ แปลว่าสุกแล้ว เอาออกได้ … แต่ต้องรอจนขนมส่งกลิ่นหอม และเวลาครบตามที่ตั่งไว้แล้ว จึงเปิดได้ ถ้าเปิดก่อนขนมสุกเต็มที่ ขนมจะยุบไม่สามารถแก้ไขได้
วันนี้พลอยศรีทำไปด้วยความลุ้นค่ะ เพราะพังมาหลายรอบกับคำว่าชิฟฟ่อน วันนี้ลุ้นแบบพยายามไม่ไปสนใจ ไม่ไปเฝ้า แต่เอาใจออกห่างไปทำอย่างอื่นจนได้ยินเสียงเวลาเตือนจึงมาส่องๆดู ว่าเหลืองจริงหรือเปล่า ควรเปิดไหม ( พลอยศรีรู้ตัวว่าสมัยก่อน เห็นขนมฟูสวย คิดว่าสุกดีรีบเปิด ขนมยุบฮวบทันที นั่นเพราะเราชอบมานั่งเฝ้าหน้าเตาเลยใจจดจ่อ ฮ่ะฮ่ะ ) คราวนี้ทิ้งเลยจนส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน และมองเห็นว่าเหลืองเข้มดี จึงค่อยเปิด ปรากฏว่า เอามือแตะๆดู ว้าว เด้งกลับตามมือเลย ครั้งแรกคร้า ฮ่ะฮ่ะ กรี๊ดดดดด รอดแล้วโว้ย
ทีนี้ขึ้นตอนต่อไป คือ ไม่ได้ถ่ายรูป นั่นคือ เมื่อขนมสุก เค้าบอกให้รีบเอาขนมออกมา แล้วคว่ำลงบนตระแกรงและทิ้งไว้แบบนั้นเลย จนขนมเย็นตัวค่อยแกะออกจากพิมพ์ ไม่ต้องไปยุ่งใดๆเลย มันเซนสิทีฟจริงๆนะอีขนมตัวนี้อ่ะ ถ้าไม่เข้าใจนะล่มจริงๆ (ไม่เหมือนอีสปันจ์ ช่างเป็นขนมที่สมบุกสมบัน กระแทกได้ไต้องกลัวเสีย )
และแล้ว พลอยศรีก็ทิ้งเวลาไปจนขนมเย็นสนิท มาแกะพิมพ์ ว้าว ขนมออกมาเป็นรูปทรงแบบ เห้ย ไม่ยุบ ไบ่บุบสลายเว้ย ดีใจๆ เอาหละตัดกินกันได้
ในขณะที่ตั้งใจจะตัดแล้ว กะว่ากินมันแบบนี้แหละบีบวิฟครีม กินกับกาแฟ ง่ายๆ ก็มาคิดว่า เออ ขนมมันกลิ่นส้มหอมฟุ้งมากๆ เฮ้ยเราลองทำเค้กส้มดูดิ น้ำส้มเราก็มีอะไรเราก็มี แต่เราไม่มีแป้งกวนไส้ แต่เค้าบอกว่าเราสามารถใช้แป้งข้าวโพดแทนแป้งกวนไส้ได้ แค่ทำออกมาแล้ว มันจะไม่ใส ตัวส้มจะออกขุ่นๆ เราก็แบบ เออ ไม่เป็นไร ขุ่นก็กินได้ขอแค่รสอร่อยเป็นพอใจ ลองดู ว่าและก็จัดเตรียมอีกรอบ
สูตรซอสส้มหน้านิ่ม
- น้ำเปล่า 375 กรัม
- น้ำส้มเข้มข้น 180 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- แป้งกวนไส้ 35 กรัม
- เนยสด 35 กรัม
วิธีทำ
- ผสมทุกอย่างลงในหม้อ ยกเว้นเนยสด แล้วคนให้เข้ากันจนแป้งละลายหมด
- นำขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ กวนไม่หยุดมือจนกว่าจะข้นเห็นลอยตระกร้อที่เราคน และน้ำซอสเดือดปุดๆ
- ยกลงจากเตา และนำเนยสดใส่ลงไป แล้วคนต่อจนเข้ากันไปอีกสักครู่จนกว่าซอสจะอุ่นๆ
- นำไปราดตัวเค้กได้เลย
ยกออกจากเตา ใส่เนยสดแล้วคน
พลอยศรีมีเรื่องตลกหลายเรื่องเมื่อวานคือ เมื่อคิดทำซอสส้ม ก็ทำแบบงงๆ เพราะเราไม่มีแป้งกวนไส้ เราจึงใช้แป้งข้าวโพดแทน ก็กวนไปสักพัก เห็นรอยตระกร้อ ก็นำมาใส่เนย ทีนี้พอใส่เนยลงไป กลายเป็นซอสมันเหลวๆขึ้นมาซะงั้น อ้าว ทำไงดีวะ ไม่ข้น มันจะราดได้เหรอ ตายแล้ว ใจเสีย รีบโทรปรึกษาน้อง แต่น้องก็ติดทำขนมไม่สะดวกรับสาย พลอยศรีเลยปล่อยเลยตามเลย ก็ทิ้งไว้สักครู่แบบใจเสีย ฮ่ะฮ่ะ
ทีนี้พอทิ้งไว้ซอสมันก็อุ่นตัวแบบใกล้จะเย็น ปรากฏว่า มันข้นขึ้นแบบหนืดราดได้ อ้าวเห้ย ใช้ได้นี่หว่า ดีใจๆ ไม่เสียแล้ว….. ทีนี้ก็รีบเลย ไปตัดเค้กต้องทำสองชั้น ห้าวอีก ฮ่ะฮ่ะ ทีนี้ตลกอีก เฉือนไป มันก็เฉไป เฉมา ไม่ตรงรอยกัน แบบว่าเฉือนสองข้างเข้าหากัน และพอมันขาดจากกัน จับดูก็นุ่มมากๆ หอมๆมากๆ แต่ขนมเอียงเสียแล้ว
รีบทาซอสด้วยความดีใจ ทาไปทามาทาครบวง จับเค้กวางประกบ …. อ้าวกรี๊ดด ลืม เค้กมันไม่เสมอกัน ตายแล้ววววว เราลืมไป ฮ่ะ ฮ่ะ ครั้นจะยกออกมาหมุนวางใหม่ให้ตรงรอยก็ไม่ได้แล้ว เพราะดูท่ามันจะเลอะเพราะซอสมันแปะไปแล้ว ก็เลยเป็นอันว่า เค้กก็ สูงๆต่ำๆ ไม่เสมอกัน ทั้งๆที่อบออกมาฟูสวยไม่ยุบตัว …. มันต้องมีเรื่องตลอดสิน่า… ฮาฮ่ะ
วางแล้ว นำซอสที่เหลือ มาราดลงตรงกลางเค้ก ค่อยราดลงไปแล้วให้ซอสค่อยๆไหลออกไปรอบๆ พลอยศรีทำซอสตามสูตร ราดได้พอดีพิมพ์วงกลม 8 นิ้ว ไม่เหลือเก็บ จากนั้นก็ปาดๆข้างๆนิดหน่อยให้เรียบร้อย (พลอยศรีทำไม่เรียบร้อย กลัวจะเสีย เลยไม่กล้ามาก ทำแบบเบามือ )
ราดเสร็จ ทีนี้ก็ต้องไปหาผลไม้มาประดับตกแต่งให้สวยงาม พลอยศรีกดเข้าไปดูในแหล่งภาพต่างๆ โอ้สวยงาม มีทั้งสตอร์เบอรี่ กีวี่ เชอร์รี่ ส้มเชื่อม ณ วินาทีนี้ พลอยศรีไม่มีอะไรสักอย่าง นอกจาก องุ่น และแตงโม แอปเปิล ซึ่งดูไม่เหมาะกันเลย แต่เอาวะ ทำไปแบบมึนๆ ไปงัดองุ่นเอามาวางก็ได้ คริคริ ให้มันดูมีอะไร อะไรสักหน่อย

ตกแต่งแล้ว นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ สองชั่วโมง แล้วมาตัดกิน ขอบอกว่า มันกรี๊ดมากๆ ผู้ชายกรี๊ดกว่าใคร เหมือนรอตั้งแต่บ่ายเย็น แต่เพราะต้องรอซอสส้มเซตตัว จึงต้องอดทน ปรากฏว่า การรอที่ยาวนานได้ผลดีเกินคาด เอาวิฟครีมมาบีบสวยๆ เดินไปเด็ดใบสะระแหน่มาวางคู่กัน มันทำให้เค้กส้ม บ้านๆ ดูดีขึ้นมาเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดูดีก็คงไม่เท่ารสชาติที่สมบูรณ์
พลอยศรีดีใจมากๆ เพราะสูตรนี้ลงตัวจริงๆ ทั้งรสชาติของซอสส้ม และความนุ่มของขนม พลอยศรีไม่เคยทำชิฟฟ่อนสำเร็จ คราวนี้สำเร็จแบบรู้ท่า รู้ว่าต้องทำอย่างไร รออย่างไร ความอดทนมันต้องเอามาปรับใช้กับทุกอย่างจริงๆ

คราวหน้าทำอีกก็จะมั่นใจยิ่งขึ้น ส่วนซอสส้มเอาไว้จะทำอีก และจะลองไปหาแป้งกวนไส้ตามสูตรเพราะเค้าบอกจะทำให้ซอสใสสวย สูตรดีแล้ว เพียงแต่ฝีมือยังต้องปรับอีกสักพัก พอทำได้ เราก็จะหัวใจพองฟู อยากเล่า อยากอวด อยากบันทึก คริคริ
ยิ้มให้กับความล้มเหลวที่ผ่านมา เพราะทุกครั้งที่ล้มคือ บทเรียน เมื่อไม่ท้อวันนึงก็อาจสำเร็จ นี่คือเรื่องจริง ล้มสิบครั้ง สำเร็จแค่หนึ่งครั้งก็ยังดี ยังสำเร็จ ขอบคุณกูรูทุกๆท่านที่มอบความรู้เป็นวิทยาทานแบ่งปันกันตามห้องต่างๆ พลอยศรีก็ทำได้โดยอาศัยเข้าไปอ่านตามที่เค้าแนะนำกัน ขอบคุณที่สุดเลยค่ะ

ผู้ชายยิ้ม ผู้ชายชม พลอยศรีก็ยินดีเป็นที่สุดแล้ว โฮมเมด ดีงามเสมอ อีกหนึ่งวันดีๆ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ