สวัสดีค่ะ สวัสดีวันหยุด วันนี้เป็นวันแรงงาน วันที่หลายๆคนรอคอยว่าจะได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ต้องไปทำงานเนาะ อิอิ แต่เพราะช่วงนี้ทุกๆวันคนทำงานส่วนใหญ่ก็อยู่บ้านกัน คงรู้สึกเบื่อแล้วก็เป็นได้ อิอิ บ้านพลอยศรีผู้ชายบอกว่า อาทิตย์หน้าจะต้องไปทำงานแล้ว ฮีดีใจจะแย่ ฮีบอกทำงานอยู่บ้านได้ผลงานดีกว่า แต่มีข้อเสียคือ แต่ละวันไม่ได้เดินมาก นั่งอยู่ที่โต๊ะทั้งวัน และก็ย้ายไปโซฟา ไปที่นอน นับก้าวได้วันนึงไม่ถึง500 ก้าว แต่ถ้าไปทำงาน ฮีบอกว่าแต่ละวันเดิน8000-9000 ก้าวเลยแหละ ….
ฟังเสร็จหันมามองตัวเองแพร็บ พลอยศรีก็เช่นกันวันๆไม่ได้เดินไปไหนเลยช่วงนี้ แต่วันนี้ทำแกงไก่ใส่กะทิหมดกล่องเลย ตอนกินอร่อยมาก แต่ตอนกินเสร็จ อยากกรี๊ดดังๆ นี่ฉันทำอะไรลงไป ฮ่ะฮ่ะ
อิ่ม และอร่อย ช่างมันเหอะเนาะ นานๆกินที ปลอบใจตัวเองเบาๆ ฮ่ะฮ่ะ … คืองี้ ผู้ชายให้พลอยศรีทำอาหารที่เค้าอยากทานเมื่อหลายวันก่อน พลอยศรีก็ทำให้เค้าแบบ หายอยากไปเลย ทีนี้เมื่อเค้าสบายไปแล้ว พลอยศรีล่ะจะกินอะไร ข้าวก็ไม่ได้หุง เพราะพลอยศรีทำภาระตะและแกงถั่วให้เค้า พลอยศรีก็ไม่ร่วมวงทานด้วยอยู่แล้ว ก็ต้องคิดหาทำอะไรกิน
ในเมื่อเค้าอร่อย เราก็อยากอร่อยบ้าง วันหยุดเนาะมานั่งทานด้วยกัน อิอิ พลอยศรีเลยคิดเมนูพิเศษขึ้นมาค่ะ นั่นก็ คือ ขนมจีนแกงไก่ ขอบอกว่าเมนูแกงไก่นี้ พลอยศรีไม่เคยทำมานานมากๆ อารมณ์ คือ ไม่อยากกินอ่ะ ดังนั้นทุกๆครั้งที่พลอยศรีทำขนมจีน จึงจะเป็นน้ำยาป่า หรือ น้ำยากะทิปลาทูน่าเสียมากกว่า น้อยครั้งมากเลยนะในรอบหลายๆปีที่จะมาแกงไก่แบบนี้ แต่อย่างว่าแหละค่ะ วันนี้วันหยุด วันพิเศษ ฮ่ะฮ่ะ มันก็เลยต้องทำเมนูพิเศษ
ขอเล่า ทำไมขนมจีนแกงไก่พลอยศรีถึงว่ามันเป็นเมนูพิเศษ คืองี้ค่ะ พลอยศรีอ่ะโตมาจากบ้านนอกเนาะ และบ้านนอกเราก็ทำอาหารกินกันเองทุกมื้อ แต่แปลกมาก เค้าไม่ยักแกงไก่ แกงเนื้อแบบนี้กินในวันธรรมดาๆทั่วไป แต่พอมีงานบุญ งานบวช งานแต่ง หรือ วันพระใหญ่ๆที่ผู้คนไปวัดกัน หรืองานที่ต้องมีคนมารวมกัน พวกเราก็จะตั้งหน้า ตั้งตาไปหามะพร้าว มาปอก มาขูด มาคั้นกะทิ มารวนไก่ รวนเนื้อกัน เตรียมไว้เพื่อทำแกงกะทิ ทานคู่ กับขนมจีน พลอยศรีนั้นโตมากับแกงกะทิไก่ แกงกะทิเนื้อไปวัดจริงๆ คือ ถ้าไม่วันพระใหญ่ จะไม่ได้กิน ฮ่ะฮ่ะ
วันนี้พลอยศรีคิดว่า อยากจะกินอ่ะ นานเหลือเกินแล้วที่ไม่ได้กิน รู้สึกคิดถึงจัง และเมื่อวานเก็บของในครัวก็เห็นมีขนมจีนเยอะเชียว เลยว่ากินขนมจีนและกัน ไก่เราก็มี มะเขือเราก็มี พริกแกงเผ็ดก็มีสำเร็จ ขาดก็แต่ใบโหระพา ก็ไม่เป็นไร ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ แต่คิดไปเมื่อครั้งก่อนเห็นพี่ที่อยู่ทางยุโรปเค้าแกงเผ็ดอะไรสักอย่างแล้วใส่ใบพริก พลอยศรีก็ฉุกคิดขึ้นมาเออ เราก็มีต้นพริก ไปเด็ดยอดอ่อนๆมาใส่ดีกว่า ทดแทนใบโหระพา มันไม่หอมอะไรแต่ก็เพิ่มสีสันทดแทนกันไป ใบพริกกินได้นะ แม้แต่พริกแกงเขียวหวานเค้าก็เอามาโขลกรวมกันให้พริกสีเขียวๆ
เล่ามาเยอะและ มาแกงไก่กันดีกว่า วันนี้พลอยศรีทำแบบง่ายๆ ทำแบบที่เราคุ้นเคยทั่วๆไป เครื่องปรุงต่างๆก็ แกงเผ็ด แกงกะทิ ทั่วๆไป ได้แก่ สันในไก่หั่นชิ้นพอคำ พริกแกงเผ็ด มะเขือ พริกชี้ฟ้าเขียว กะทิ ใบพริก (แทนโหระพา) เครื่องปรุง ใช้เกลือ และ น้ำตาลปี๊บ วันนี้พลอยศรีใช้น้ำมันพืชด้วยเล็กน้อยในการผัดพริกแกง พอดีเคยไปดูวิธีการทำอาหารกับคุณหมึกแดงที่เค้ามาสาธิต เค้าแนะนำว่าให้ใช้นำมันพืชช่วยผัดเล็กน้อย ไขมันจากน้ำมันจะช่วยดึงมันของกะทิออกมา
วิธีทำ ดังนี้
เริ่มแรกก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย และตักพริกแกงเผ็ดใส่ลงไป ผัดพอเข้ากันให้ส่งกลิ่นหอมสักครู่ ก็ใส่หัวกะทิของเรา ลงไปผัดด้วยกัน ผัดจนเห็นว่า พริกแกงแตกมันเลย ….และน้ำมันของกะทิออกมาเยอะมาก ตามที่คุณหมึกแดงบอกเลย ( ปกติที่พลอยศรีทำมาจากตามที่ปู่ย่า ตายายสอน จะไม่ใช้น้ำมัน จะผัดพริกแกงกับหัวกะทิล้วนๆเลย ) ผัดไฟอ่อนๆ เพื่อป้องกันพริกแกงไหม้ เมื่อกะทิแตกมันเต็มที่ ก็ใส่เนื้อไก่ลงไป
เมื่อใส่ไก่ลงไปแล้ว ก็ผัดสักครู่ให้ไก่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวด้านๆ มองว่าเริ่มสุกสัก 30 เปอร์เซ็นต์ ก็เติมน้ำเปล่าลงไป และเติมกะทิที่เหลือลงไป ไม่ต้องหมด เหลือไว้ใส่ปิดท้ายเล็กน้อย ให้แกงมีความมันเข้มข้น (ปกติเราใส่หางกะทิ แต่พลอยศรีใช้กะทิกล่อง) ความเข้มข้นก็กะเอาตามใจชอบ
เมื่อเราใส่หางกะทิลงไปสักครู่ พอเห็นว่า เริ่มเดือดปุดๆ เบาๆ เราก็เริ่มทำการปรุงรส วันนี้พลอยศรีใช้เกลือ เพราะไม่อยากให้แกงมีกลิ่นเหม็นรบกวนผู้ชาย จึงปรุงด้วยเกลือ และก่อนทาน เติมน้ำปลาเพิ่มเติมในจานจะไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น ใส่เกลือปริมาณตามชอบ น้ำตาลก็เช่นเดียวกัน พลอยศรีใช้ไปไม่หมด เหลือเล็กน้อยก็ชิมเอาตามชอบ
เมื่อปรุงรสถูกปากแล้ว ก็ใส่มะเขือลงไป มะเขือเปาะ มะเขือพวง แล้วแต่ วันนี้พลอยศรีใช้มะเขือม่วงลูกกลม อร่อยเหมือนกัน ตามด้วยพริกอ่อน / พริกหยวก / พริกชี้ฟ้าเขียว แดงได้หมด แล้วปิดฝาสักครู่ รอให้มะเขือสุก
มะเขือสุกแล้ว ก็ใส่ใบพริกลงไป จากนั้นก็ใส่หัวกะทิที่เหลือไว้ ต้มแค่พอเข้ากันเดือดฟู่ขึ้นมาก็ปิดแก็สได้เลย
เสร็จแล้ว แกงกะทิไก่ หอมมากๆ หอมกลิ่นกะทิ ขอบอกว่าวันนี้แกงอกไก่สามชิ้น มะเขือม่วงกลมสองลูก น้ำหนึ่งถ้วยแกง และก็ใส่กะทิหมดกล่องเลย หวานมัน อร่อยมากๆ ขนาดว่าไม่ได้ใส่ใบโหระพายังอร่อยเลย เพราะแกงนั้นเข้มข้นมากๆ พริกแกงก็หอมดี แกงเสร็จ ทานเสร็จเก็บใส่กล่องไว้สำหรับพรุ่งนี้ได้อีกหนึ่งมื้อสบายๆ พรุ่งนี้กลางวัน พลอยศรีไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร อิอิ

มีเรื่องตลกมากๆ คือ พลอยศรีอ่ะไม่ได้ซื้อพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูปแบบนี้มานานมากๆ ปกติก็จะปั่นเอง บดเองเวลาจะแกง แต่ว่าช่วงนี้โควิดเนาะ เค้าประกาศห้ามออกนอกบ้าน พลอยศรีก็เดินผ่านชั้นขายพวกเครื่องแกงต่างๆ และไปเห็นพริกแกงเผ็ดเข้า ขวดเล็กกระทัดรัด กะว่าขวดนึงแกงได้หลายมื้ออยู่ พลอยศรีก็เลยหยิบมาอย่างละสองขวด พริกแกงเผ็ด และพริกแกงเขียวหวาน ติดมาอย่างนั้นแหละ เพราะคิดไปว่าอาจจะไม่ได้ออกมาซื้อพวกข่า ตะไคร้ ผิวมะกูดแบบทุกๆสัปดาห์ หรืออาจจะออกมาได้แต่ของไม่มี เห็นว่าแบบนี้สะดวก และเก็บได้ไม่เสียก็เลยหยิบมาไว้ก่อนแก้ขัด
ปรากฎว่ามันก็อร่อยดีนะ อร่อยดีทีเดียวเลยแหละ รสชาติเหมือนที่เคยกินมาไม่ผิด แต่ถ้าที่บ้านนอกพลอยศรีทำเอง จะเผ็ดกว่านี้หน่อย วันนี้พลอยศรีกินและก็แบบ อืม… อร่อยอ่ะ โอ้ยชอบๆ พอกินก็นึกขำอีก ใส่มะเขือเยอะมาก เพราะเราอยากกินผักด้วย ก็เลยพาลนึกถึงคนที่เค้าแอบแซวว่า แหม แกงไก่หม้อเบ้อเริ่มเทิ่ม แต่ ใส่มะเขือไร่ ไก่ตัวเดียว ฮ่ะฮ่ะ คนก็ช่างเหน็บแนมกันจริงๆ
คือ สมัยก่อนเวลาเราเกี่ยวข้าว หรือ จับกุ้งที่ต้องใช้คนเยอะๆ เราก็ต้องทำกับข้าวเลี้ยงเนาะ เค้าก็เลยชอบแกงไก่ กับ ขนมจีนกันแบบนี้ แกงไก่หม้อใหญ่ไปตั้งไว้ และขนมจีนตระกร้าใหญ่ กับข้าวสวยหม้อนึงไปตั้งไว้ ใครมาจะกินอะไร ก็ตักราดๆเอา ทีนี้คนมาก่อนก็ตักก่อนเนาะ พวกกินไก่ไม่กินผักก็ควานกันแต่ไก่ พวกมาทีหลังก็เลยต้องกินไก่หลองแหลง กะมะเขือเต็มหม้อ ฮ่ะ ฮ่ะ นึกก็ขำจัง แต่ก็เป็นบทเรียนได้เหมือนกันนะ ว่าถ้าเลี้ยงคนเยอะๆต้องตักแบ่งมาเติมเรื่อยๆ อย่ายกมาทีเดียว เพราะคนกินไม่พร้อมกันก็จะมีปัญหาแบบนี้ อิอิ

สำหรับวันนี้อิ่มแล้ว ขอบคุณวันดีๆ ที่ทำให้ได้กินอาหารอร่อย มีความสุข ก็จะยิ้มกว้างๆหน่อย อิอิ และที่วันนี้มาดึกดื่น เพราะรู้สึกผิดที่กินกะทิเป็นกล่องๆ เลยไปปั่นจักรยาน และ ออกกำลังกายยกขา ยกแขนมาหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ไปอาบน้ำ ทำกิจกรรมต่างๆจนเสร็จสิ้น ผู้ชายยังไม่นอนนั่งดูหนัง Die Hard4 ซึ่งพลอยศรีไม่ชอบ เลยแยกตัวมาบันทึกเรื่องราวดีกว่า
ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ