สวัสดีค่ะทุกๆคน สองสามวันมานี้ห่างๆหายๆ ปกติตั้งใจจะมาบันทึกทุกๆวัน วันละเรื่องเพราะจริงๆในชีวิตคนเราก็มีเรื่องราวมากมายที่พบเจอให้จดจำ แต่ก็ตามสไตล์พลอยศรีเลยค่ะ คือพอถึงเวลานะ มันก็ขี้เกียจเหลือหลาย บางทีนะเปิดเครื่องมา แล้วก็นั่งจ้อง ขำตัวเองอ่ะ คือ เรื่องเยอะแยะไปหมด แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง นั่งจ้องและก็ปิด
คือ ใจมันไม่ให้อ่ะ ใจมันไม่อยากคิด ไม่อยากทำ คิดถึงคำที่เค้าพูดกันบ่อยๆเวลาคนเราจะเลิกรากันเลย คือ ใจมันไม่อยู่รั้งยังไงมันก็จะไป ประมาณนั้นแหละค่ะ ในส่วนของพลอยศรีก็จะเป็น ก็ใจมันไม่ไปอ่ะ ให้เปิดเครื่องมารอ ชงกาแฟมาตั้ง นั่งมองเรื่องราวแต่อารมณ์มันไม่มา องค์ไม่ประทับอ่ะ ทำยังไงมันก็เขียนไม่ได้ มันใช้ใจล้วนๆคริคริ แต่ถ้าวันไหนมันอยากจะทำ มันไม่ต้องมีอะไรก็ได้ ไม่ต้องใช้อะไรเลยทุกอย่างมันก็พรั่งพรูออกมา ฮาฮา อินดี้เนาะ
เอาหละค่ะ ไม่ออกนอกทะเลเยอะแยะเกินไป วันนี้พลอยศรีอยากจะมาบันทึกเรื่องราวความสุข และความสนุกตามประสา เรื่องราววันนี้จะเล่าเรื่องราวทั่วๆไปที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ของบ้านเรา
เนื่องจากเมื่อวานวันเสาร์ค่ะ พวกเรามีนัดไปหาหมอเพื่อตรวจเช็กปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้ชายของพลอยศรีมีปัญหาที่ข้อเข่าเพราะเส้นเอ็นฉีกขาดไปบางส่วนเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็รักษาตามอาการ ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อห่อหุ้มบริเวณข้อเข่าเพื่อให้มีกล้ามเนื้อมาประคับประคอง ทีนี้เมื่อสองปีที่ผ่านมาเค้าก็ไปล้มและก้นกระแทกพื้นมั้ง ก็ปวดสะโพกไปพักนึง การปวดก็เป็นๆหายๆ
เมื่อวานการหาหมอก็จบสิ้นไปช่วงเช้า พูดคุยตรวจสอบอาการ และหมอก็เลยนัดให้ไปทำMRI ที่ข้อเข่า และที่สะโพกในสัปดาห์หน้า และก็นัดมาอีกที ทีนี้เมื่อดูผลแล้วค่อยว่ากันว่าจะต้องมีการผ่าตัดอะไรที่ไหนไหม ตอนแรกเราตั้งใจไว้ว่าจะทำการผ่าตัดที่ข้อเข่า แต่หมอว่าดูอาการน่าจะที่ข้อต่อสะโพกมากกว่าเข่า เพราะขยับเข่าแล้วยังดีอยู่ ก็คงต้องรอดู
ส่วนผู้ชายของพลอยศรีก็ตลกลั้นลาไปตามประสา บอกพลอยศรีว่า ถ้าอะไหร่ไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนอะไหร่ไหม่ พร้อมทำท่าเจาะ ตอก สับ และก็เหวี่ยงทิ้ง เอาของใหม่มาใส่ ขันน๊อต ตอกตะปูให้เข้าที่เข้าทาง เราก็ขำกันน่าดูขณะที่ขับรถกลับ ผู้ชายเป็นคนที่ไม่กลัวการผ่าตัด เพราะเค้ารู้ว่าผ่าตัดไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน แต่ที่เค้ากังวลมาก คือ เรื่องตัวของหมอเป็นรายบุคคล เค้าไม่รู้ว่าเค้าจะเชื่อใจหมอได้มากน้อยแค่ไหน นี่แหละคือสาเหตุต่างๆที่เค้าไม่ยอมผ่าตัดเข่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา จนเรื้อรังมาถึงทุกวันนี้ พลอยศรีก็ได้แต่พูดปลอบใจว่า ให้คิดบวกเอาไว้ และการเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญ
จบเรื่องราวหาหมอ เราก็ไปต่อกันที่ร้านอาหารอินเดีย ร้านประจำที่เราไปกันบ่อยๆเมื่อมีเวลา ทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็พากันไปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เราไปกันทุกๆวันเสาร์ ก็กิจกรรมเดิมๆ คือ เดินเลิกซื้อของกินของใช้
ทีนี้มาถึงเรื่องของกินค่ะ เนื่องจากว่าผู้ชายของพลอยศรีเค้าชอบกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์มากๆ บ้านเราอาหารอินเดียส่วนใหญ่เราก็ปรุงด้วยเม็ดมะม่วงในการทำเครื่องแกงเพื่อเพิ่มความมัน แต่รู้สึกพักนี้มันหมดไว เพราะเค้าชอบมาขโมยกิน พลอยศรีซื้อมาทีละครึ่งกิโล แป๊บๆหมดและ เมื่อวานก็เลยให้เค้าขับรถพาไปซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ เพราะที่นั่นจะได้ถุงใหญ่ๆและราคาก็ไม่แพง และก็มีหลายถั่วให้เลือก ทั้งอัลมอนด์ แม๊กคาดาเมีย เม็ดมะม่วง และอื่นๆอีกมาก อยากกินอะไรก็ซื้อมาเลย
ช่วงที่เดินไปร้านเบเกอรี่ก็ผ่านร้านอาหารไทย คิดๆอยู่ว่าเอ๊ะ จะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวสักถุงนึงห่อกลับไปกินที่บ้านดีไหมนะ แต่มองเข้าไปในร้านก็เห็นคนเงียบๆ คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เรามีไก่ท้ายรถ เดี๋ยวกลับบ้านไปทำก๋วยเตี๋ยวไก่กินและกัน ถั่วงอกเราก็มี ต้นหอมผักชีก็พร้อม เส้นหมี่ เส้นใหญ่มาครบ จริงๆถั่วงอกซื้อมาตั้งใจจะมาผัดหมี่กินวันไหนไม่รู้ เส้นใหญ่กะว่าจะเอาไว้ราดหน้า ส่วนไก่เอามาติดบ้านไว้เผื่อแขกไปใครมา ฮาฮา
แต่ตอนนี้คิดว่ายกเลิกทุกเมนูพอเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวก็อยากจะกินก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาเลย ป๊าด ติโธ่ ฮาฮา คนเรานี่ก็เนาะ กิเลสมากมาย อยากไปเรื่อย
กลับมาบ้านก็ทำตามความปรารถนาค่ะ ก่อนอื่นก็ทำการชงกาแฟมานั่งดื่มกัน มีขนมปังพร้อม ขนมปังก็คือภาพรวมๆกันเก่าบ้างใหม่บ้าง แต่ทุกๆอาทิตย์ก็คือเราต้องซื้อมา พอเรากลับมาจากซื้อของ เราก็จะเอาขนมปังมาทานคู่กับกาแฟกันก่อน เสร็จแล้วค่อยไปเตรียมอาหารอะไรก็ว่าไป ช่วงกาแฟก็เหมือนช่วงพักเบรค และผ่อนคลาย และทานอะไรรองท้องไปสักพักสองสามชั่วโมง ขนมปังมีมากมายเพราะเราต้องพาไปกินที่ทำงานในระหว่างสัปดาห์ด้วย พลอยศรีใส่ตู้เย็นไว้ และก็มาอุ่นสิบวินาที ก็อร่อยเหมือนออกจากเตาใหม่ๆเลยค่ะ
จากนั้นก็ต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวง่ายๆไปพลางๆ เพราะเราจะกินค่ำๆแต่ต้มทิ้งไว้ก่อนพลอยศรีก็ทำไม่ยากค่ะ สบายๆ ใช้สันในไก่สามชิ้น ผักแครอทหนึ่งหัว หัวไชเท้าไม่มีเพราะไม่ได้ตั้งใจจะกินแต่แรกเลยไม่ได้เตรียม กะว่าทำกินสามถ้วย ก็ใช้ไก่สามชิ้น รากผักชีทุบ กระเทียม พริกไทย เกลือนิด น้ำตาลกรวดหน่อย เครื่องเทศสำหรับตุ๋นคู่ครัว ก็ใส่ลงไป ต้มไปเรื่อยๆ คือก็ไม่ยากค่ะ ไม่ใส่ชูรส และรสดี เรากินเองก็เลือกเอาอะไรลด อะไรละ อิอิ ใส่เต้าหู้พวงด้วยเพราะว่าชอบกิน
ในขณะที่เปิดขวดพริกป่นก็เห็นว่ามันเหลือน้อยเต็มที ไม่รีรอนำพริกมาคั่วทันใด ขอบอกว่า พริกนี้เผ็ดร้อนดีจริงๆพลอยศรีชอบมากๆ พริกขี้หนูแห้งคั่วเอง ทั้งหอม ทั้งเผ็ด แถมล้างแล้วอย่างดีสบายใจได้ พริกน้ำส้มก็ทำไว้พร้อมแช่ตู้เย็นพร้อมใช้
พลอยศรีต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวไว้ช่วงบ่ายแก่ๆ แต่ก็กินค่ำๆ พออิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเราก็มีช่วงดื่มชา เนื่องจากเมื่อคืนเป็นวันเสาร์พวกเราก็ดูรายการต่างๆกันจนดึก ดูไปคู่กับจิบชาก็เอาขนมไหว้พระจันทร์มาทานคู่กัน เทศกาลไหว้พระจันทร์สิ้นสุดไปแล้วแต่ขนมยังเหลืออีกมาก ช่วงนี้กินกันรายวันไปเลย ฮาฮา นี่กินจากที่ไม่ค่อยจะชอบ กินไปกินมาก็ว่าเออมันก็อร่อยดีแฮะ ฮ่ะฮ่ะ และก็กินอยู่คนเดียวด้วยนะผู้ชายเค้าก็ไม่แตะ ยังเหลืออีกเยอะเลยได้มาเรื่อยๆไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่มันก็เหมือนๆกันอ่ะขนมไหว้พระจันทร์ไส้ต่างๆ พลอยศรีไม่ได้ซื้อหรอก เพื่อนๆให้มา และรสชาติมันก็ไม่หนีกัน
วันนี้พลอยศรีก็อุ่นก๋วยเตี๋ยวไก่กินมื้อกลางวันค่ะ อิ่มมากสบายท้อง อย่างที่ตั้งใจไว้ คือ ทำสามถ้วยก็ได้สามมื้อกำลังดี ถ้ากินสองถ้วยก็ว่ากันไป ฮาฮา ส่วนผู้ชายตื่นมาสายๆพลอยศรีก็เสิร์ฟตามสไตล์ของเค้าคือ ไข่ออมเล็ต ขนมปัง นมเนย และผลไม้มีมะม่วง มะละกอ
และก็มีลูกพลับหวานที่เราเห็นว่าลูกเล็กๆน่ากินสีสวยงามก็เลยซื้อมาหนึ่งแพ็ก ผู้ชายชอบมากแต่พลอยศรีไม่ชอบเลย เพราะว่ามันกินลื่นๆ ฮาฮา เป็นคนไม่ชอบอะไรลื่นๆ และเพิ่งเคยเห็นลูกพลับลูกเล็กแต่ผลสุกพร้อมทาน ลูกเล็กเท่ามะเขือเปาะเอง แต่หวานดี และมีสีส้มสวยงามประหนึ่งไข่แดงของไข่เค็มเลย พลอยศรีคิดว่าบ้านเรากินผลไม้เยอะมาก แต่ละสัปดาห์ผู้ชายซื้อพลอยศรีงงเลย แต่คงเพราะเค้ากินมังสวิรัติเค้าก็เลยกินผลไม้เก่ง พลอยศรีจะเป็นคนซื้อพืชผัก ส่วนเค้าเป็นคนซื้อผลไม้ บางทีพลอยศรีก็ไม่ค่อยได้ดูมีอะไรในรถเข็น พอมาถึงบ้านเก็บล้าง ผึ่งตากเตรียมเก็บเข้าตู้เย็นพลอยศรีจึงเห็นว่าเยอะมากมาย แต่ก็พอกินทั้งสัปดาห์ เพราะเราซื้อเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น ไม่ขาด ไม่เกิน
วันนี้วันอาทิตย์บ่ายๆพลอยศรีสุขใจ ว่างๆไม่ได้ทำอะไรก็เลยแวะมาบันทึกสักหน่อยเดี๋ยวจะห่างหายไปนานสะสมหลายวันเข้า ความขี้เกียจก็จะก่อตัว ฮาฮา ตอนนี้ก็หมดเรื่องราว พลอยศรีตั้งใจว่าเดี๋ยวจบบันทึกก็จะไปทอดกล้วยแขกกินสักหน่อย พอดีเมื่อวานได้กล้วยลาสตาลีมาด้วยหนึ่งหวี สีเขียวๆเหลืองๆกำลังเหมาะที่จะทอดเลย เห็นแล้วสายกล้วยทอดอย่างพลอยศรีก็ยากที่จะเดินผ่านไม่หยิบติดมือ ฮาฮา ชอบกินกล้วยทอดแต่ไม่เจอกล้วยที่จะใช้ทอดบ่อยๆก็อดไป พอเจอก็ดีใจประหนึ่งเจอทอง ฮาฮา วันนี้ได้กินแน่นอนค่ะ
สำหรับวันนี้ บันทึกนี้ก็เป็นเรื่องราวทั่วๆไปและก็ตามสไตล์ไม่พ้นเรื่องอาหารการกินเนาะ อิอิ ทำไงได้ก็ชีวิตเรามันก็มีแค่นี้อ่ะ กิน นอน ทำงานประจำ วันหยุดมันก็ไม่มีอะไร ช่วงนี้เคสผู้ป่วยก็พุ่งเป็นระลอกสอง รัฐบาลก็ประกาศไม่จำเป็นอย่าออกนอกบ้าน แต่ไม่ได้ประกาศปิดประเทศเหมือนช่วงที่ผ่านมา แค่ให้อยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยอย่าออกไปถ้าไม่จำเป็น เราก็เลยอยู่บ้าน กินและก็นอนเล่น ดูหนัง ฟังเพลงกันไป ดังนั้นวันนี้ก็เลยสุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ
พลอยศรี Stories 