ชวนทำ ‘ปานิ ปุริ’ กินกัน (Pani puri)

สวัสดีค่ะ เมื่อสองสามวันก่อนพลอยศรีทำปานิปุริกินกันในบ้าน และพาไปกินกับเพื่อนๆ พวกเค้าชมว่าอร่อย อยากจะทำบ้าง พลอยศรีก็เลยถือโอกาสบันทึกสักหน่อย พอดีเมื่อวานทำกันอีกรอบเลยถ่ายรูปมาบันทึกไว้ด้วย

ปานิ ปุริ เป็นของว่างของชาวอินเดียทางตอนเหนือ ถ้าขึ้นไปทางแถบเดลีจะเจอทั่วไป พลอยศรีอยู่รัฐทางใต้รัฐเกรละจะไม่ค่อยพบเจอเท่าไหร่ แต่ที่รู้จักและชอบกินเพราะเราอยู่มาเลย์ เวลาเข้าร้านอาหารเราจะไม่ค่อยไปร้านอาหารใต้กันเท่าไหร่ นิยมไปร้านอาหารเหนือซึ่งแน่นอนจะต้องมีเมนูของทานเล่นยอดนิยม คือ ปานิปุริ คอยเรียกแขกอยู่หน้าแรกๆเลย พลอยศรีสั่งทุกครั้งเพราะชอบกิน

ปานิ ปุริ จะเป็นแป้งกรอบๆลูกกลมๆเล็กๆที่ถูกเจาะรูตรงกลาง ยัดไส้มันฝรั่งบดผสมเครื่องเทศเล็กน้อยลงไป เวลาจะกินก็เอาไปจุ่มในน้ำซอสสีเขียวๆ คือ น้ำสะระแหน่บดนั่นเอง .. น้ำสะระแหน่จะมีรสชาติเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหอมกลมกล่อมด้วยเครื่องเทศนิดหน่อย .. บางร้านจะมีน้ำซอสอีกชนิดสีน้ำตาลมาคู่กัน จะเป็นน้ำมะขามเปียกปรุงรส เผ็ด เปรี้ยว และก็หวาน เวลาจะกินก็ตักแต่ละซอสใส่ราดลงไปในลูกปานิ ปุริ และก็อ้าปากกว้างๆใส่ปากไปทั้งลูกเลย กินแบบซูชิ คือต้องกินทั้งคำ อิอิ

เอาหละ อย่าเสียเวลาเล่าเยอะเลย มาดูวิธีการทำกันดีกว่า …การทำจะมีอยู่สองวิธี วิธีแรกคือการผสมเครื่องเทศแต่ละชนิดเอง … วิธีที่สองคือ ซื้อผงมาซาล่า ปานิ ปุริ กล่องเดียวจบเลย สามารถกดหาได้ทั่วไปจากร้านค้าออนไลน์ และแผ่นปานิ ปุริ ก็มีขายไม่ต้องมานั่งผสมแป้งทำหรอกค่ะ มีขายสำเร็จที่ร้าน และที่ออนไลน์

พลอยศรีทำแบบผสมเครื่องเทศเอง เพราะว่าเรามีของอยู่ในบ้านแล้ว (บ้านเราบ้านอินเดียนะ เครื่องเทศสาระพัดชนิดเราจึงมี) แต่ถ้าคุณไม่มีก็อย่างที่บอกค่ะ ซื้อสำเร็จกล่องเดียวจบงาน พลอยศรีทิ้งภาพไว้ด้วย พอดีซื้อมาฝากเพื่อน เค้าอยากกินบ้างแต่ไม่มีเครื่องเทศต่างๆแบบบ้านเราน่ะ

ลงมือทำกันเลยค่ะ การทำปานิ ปูริ สิ่งที่พลอยศรีใช้ก็มี ดังภาพเลย 

ส่วนของซอสสีเขียว คือซอสสะระแหน่ และซอสมะขามเปียก เป็นซอสสีน้ำตาล

ซอสสีเขียว

• สะระแหน่ 2 ส่วน
• ใบผักชี 1 ส่วน
• พริกขี้หนูเขียว 2-3 เม็ด
• ขิงปลายก้อย (ลืมภาพ)
• ผงชัตมาซาล่า 1/4 ช้อนชา
• ผงมะม่วง 1/4 ช้อนชา
• ผงยี่หร่า 1/4 ช้อนชา
• ผงพริกปาปริก้า 1/2 ช้อนชา
• เกลือดำ เกลือขาว พอปรุงรส
• น้ำมะนาว 2 -3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
• น้ำสะอาด 1/2 ลิตร (500ml.)

วิธีการทำ คือ ปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด และนำไปแช่เย็นเก็บไว้รอใช้  แช่เย็นเพื่อป้องกันน้ำซอสสีหม่น … เราใส่น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก เพื่อให้ความเปรี้ยวรักษาสีเขียวของใบสะระแหน่ไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำซอสจะสีหม่นๆไม่น่ารับประทาน

ทีนี้มาทำซอสน้ำมะขามเปียก เครื่องปรุงได้แก่

• น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
• น้ำสะอาด 1 ถ้วย
• น้ำตาลมะพร้าว 2-3 ช้อนโต๊ะ
• พริกปาปริก้าป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยดำบด 1/4 ช้อนชา
• เกลือขาว เกลือดำ ปรุงรส
• ผงยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
• *** ใช้ผลอินทผลัม แช่น้ำให้นิ่ม แล้วปั่นรวมเพิ่มความหวาน เพิ่มความอร่อยได้

วิธีการทำ คือ ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน และนำไปตั้งไฟ เคี่ยวให้เดือดข้น เพื่อป้องกันเสียและให้ความร้อนดึงกลิ่นของเครื่องเทศออกมาหลอมรวมกัน เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น แช่เย็นเก็บไว้รอใช้ได้

เมื่อเราได้น้ำซอสเสร็จแล้ว ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนการทำไส้มันฝรั่ง …เครื่องปรุงที่พลอยศรีใช้ก็มี

• มันฝรั่งต้มสุก 2 หัว
• ผงชัตมาซาล่า 1/4 ช้อนชา
• ผงมะม่วงแห้ง 1/4 ช้อนชา
• ผงยี่หร่า 1/4 ช้อนชา
• ผงพริกปาปริก้า 1/2 ช้อนชา
• เกลือขาว เกลือดำ ปรุงรส
• ใบผักชีหั่นหยาบๆ
• หอมแขกหั่นเล็กๆ
• *** สามารถเพิ่มถั่วเขียว/ถั่วลันเตา/ถั่วลูกไก่ ต้มสุกแล้วลงไปผสมได้ ถ้าต้องการ

วิธีการทำ คือ ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ (ชิมรสเค็มตามชอบ)

*** พลอยศรีไม่ผสมหอมหั่นลงไป เพราะบางคนก็ทานมังสวิรัติที่เคร่งไม่ทานหอม จึงวางแยก ใครจะกินก็ตักใส่เอาเอง ใครเคร่งก็ผ่านไป

ตอนนี้เราก็ได้ของสำคัญของการทำปานิ ปุริเสร็จแล้วค่ะ เรามีซอสต่างๆ เรามีไส้ .. ทุกอย่างที่ทำพวกผงมาซาล่าทั้งหลายที่เราใส่ปรุงนั้นมันดูเยอะเพราะเราแยกใส่ แต่ถ้ามีผงมาซาล่า ปานิปุริ ก็ไม่ต้องยุ่งยากเลยค่ะ เตรียมแค่ของสดและตักผงปานิปุริใส่ลงไป ใส่ตามที่เค้าแนะนำข้างกล่องทุกอย่างอร่อยเลย …ไม่ว่าจะเป็นซอส หรือไส้มันฝรั่งทุกอย่างใช้เหมือนกัน

ทีนี้เราก็ไปทอดตัวปุริกัน … ปุริ คือ แป้งทอด ..เราไม่ทำนะ เราซื้อสำเร็จมาค่ะ เวลาจะใช้ก็แค่นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ คนไปคนมาสองสามทีพอแป้งพองเต็มที่สีเหลืองทองก็ใช้ได้ 

ใช้เวลาแค่สองสามนาที เราก็ได้ตัวแป้งปุริมาหนึ่งกะละมัง ครั้งนี้ทอดสามสิบชิ้นเราทอดแล้วสามารถเก็บใส่กล่องปิดฝากันลมเข้าให้สนิท เก็บได้ถึงสามวันนะ แต่เรากินกันสองวันก็หมดค่ะ

แค่นี้ทุกอย่างก็พร้อมกินแล้ว แต่เราอยากทำให้เหมือนร้าน คือ มีเม็ดลูกกลมๆกรอบๆเล็กๆสีเหลือง ผสมอยู่ในมันฝรั่งด้วย เวลากินก็จะได้รสสัมผัสที่กรุบๆกรอบๆในปาก ถ้าไม่มีก็ตัดทิ้งไปได้เลยค่ะ ถ้ามีก็เป็นสีสันนะ อิอิ …

เจ้าลูกกลมๆนี้เรียกว่า ‘บุนดี’ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปที่ร้านขายของอินเดีย หรือ ออนไลน์ก็มีค่ะ ถุงนึงใช้นานมาก

เอาหละ ตอนนี้ทุกอย่างเพียบพร้อม ได้เวลาของว่างยามบ่ายเราก็ตั้งวงค่ะ จับทุกอย่างใส่ถาด ใส่กล่อง ตามสะดวก เวลาจะกินก็แค่เคาะลูกปุริให้เป็นรู ตักไส้ปานิใส่ลงไป (ไส้มันฝรั่ง) ใส่ลูกบุนดีลงไปด้วย ตักน้ำซอสมะขาม และน้ำซอสสะระแหน่ใส่ลงไป และก็กินคร้าา.. อ้าปากให้กว้างๆและใส่ลงไปทั้งลูก ฮาฮา อาหร่อยยจัง

เนี่ยค่ะ ของว่างบ้านแขก ฮาฮา ทำไม่ยากเลยค่ะ เป็นของว่างที่พลอยศรีชอบ แต่ไม่ได้มาบันทึกเพราะคิดว่าเครื่องมันเยอะ คนไม่ทำหรอกซื้อกินง่ายกว่า แต่พอเพื่อนทักก็เลยอ่ะบันทึกก็ได้ จริงๆมันไม่ยากถ้าเรามีเครื่องพร้อม พลอยศรีไปคิดถึงคนที่วัตถุดิบผงมาซาล่าไม่มีอะไรแบบนี้ แต่พอเห็นคนที่อยากกิน อยากทำ เลยคิดใหม่ อิอิ ถ่ายทำให้ดูสักหน่อยก็แล้วกันแล้วบอกตัวเองพร้อมเขกหัวเบาๆว่าชอบคิดแทนคนอื่นอยู่เรื่อย เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไหนก็ซื้อของออนไลน์ได้แล้ว

ถ้าเรากินไม่หมดก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้ค่ะ บ้านเราทำทีนึงก็กินได้สองวัน ส่วนซอสจะใช้ได้ประมาณสามถึงสี่ครั้ง

น้ำซอสต่างๆ สามารถทำเก็บไว้เยอะๆแล้วแช่แข็งเก็บไว้ได้

พอจะใช้ก็เอาออกมาตั้งให้น้ำแข็งละลายหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ส่วนน้ำซอสสะระแหน่ พลอยศรีใช้วิธีปั่นสะระแหน่ และผักชีเพิ่มลงไปก็จะได้สีเขียวๆสดๆ เพิ่มน้ำลงไปหน่อยให้พอปั่นได้ ปั่นตอนยังแข็งๆหน่อยก็อร่อย ซอสเย็นๆกินชื่นใจ ไม่ต้องมาตั้งกองทำให้หลายเรื่องนะ แค่ต้มมันฝรั่งอย่างเดียว ทอดปุริแป๊บเดียว จะกินเมื่อไหร่ก็ได้

วันนี้เราทำปานิปุริกินกันอีกรอบ หลังอาหารกลางวัน เป็นของว่างที่อร่อย ตัวปุริกรอบๆ ราดด้วยน้ำซอสรสจัดจ้านเปรี้ยว เผ็ด หวาน เย็นฉ่ำๆ คือ ฟินมาก กินคนเดียวสิบลูกนี่กินได้สบายมากค่ะ ไปที่ร้านนะ ห้าลูกก็ร้อยบาทแล้ว ถ้าร้านค้าริมทางก็จะถูกลงมาหน่อยแต่เราก็ไม่ค่อยจะกล้ากินเท่าไหร่นัก ทำเองสบายใจค่ะ เดี๋ยวนี้ของสำเร็จพร้อมใช้มีเยอะ ถ้าบ้านมีหลายคน ทำเองกินกันสนุกมาก เพื่อนของพลอยศรีกินอย่างสนุกเลย ฮาฮา ผู้ชายรึก็แบมือรอไม่ยอมหยุด

สังเกตทุกครั้งที่ไปที่ร้าน เค้าจะใส่ถั่วเขียวต้มบ้าง ถั่วลันเตาต้มสุกบ้าง ผสมลงไปในตัวมันฝรั่ง แต่พลอยศรีไม่ชอบกินก็ไม่ใส่ และเจ้าตัวบุนดีเค้าก็จะผสมมาในมันฝรั่งบ้าง หรือบางทีก็ลอยมาในน้ำสะหระแหน่ พลอยศรีไม่ชอบที่มันลอยมาในน้ำเพราะมันนิ่มไวมาก กินแล้วไม่กรุบกรอบ ถ้าชอบเร็วๆไม่พิธีก็จะผสมลงไปในมันฝรั่งแค่พอที่จะกินในแต่ละมื้อเราก็จะได้รสสัมผัสที่กรุบกรอบทุกครั้งที่กิน

ส่วนน้ำซอสมะขามเปียกนั้น บางร้านก็ทำ บางร้านก็ไม่มี ยิ่งตามริมทางเค้าจะมีแค่น้ำสะระแหน่สีเขียวอย่างเดียว คือ ผสมทั้งมะขามเปียก ทั้งมะนาว ทั้งน้ำตาล ผสมทุกอย่างลงไปในน้ำเดียวกัน ก็สะดวกดี เวลาขายเค้าจะเจาะรู ใส่ไส้ และเอาลูกปุรีจุ่มน้ำเสิร์ฟทันที ไม่มีช้อนมาให้ตักเอง ก็สนุกและง่ายดีค่ะ แต่พลอยศรีชอบน้ำมะขามเปียกด้วย ยิ่งมีอินถผาลัมด้วยยิ่งนัวเนียน แต่วันนี้ทำแบบง่าย เพื่อให้ทุกคนทำได้ไม่ยุ่งยากก็ไม่ใส่ค่ะ

ตอนนี้พลอยศรีง่วงนอนแล้ว กินอิ่มก็ง่วงนอน ขอตัวก่อนนะคร้า หวังว่าถ้าใครอยากกินปานิ ปุริ ของว่างชาวแขก ก็ลองทำกันดูนะ ทำไม่ยากแต่อร่อยมากคร้าาา สำหรับวันนี้ สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ