ผัดพริกหน่อไม้ใส่เต้าหู้ / ผัดพริกหน่อไม้มังสวิรัติ

สวัสดีคร้า… ช่วงนี้เข้าเทศการอาหารเจกันแล้ว พลอยศรีไม่ได้กินเจ แต่ว่าเน้นกินมังสวิรัติเป็นหลัก เพราะว่ามังสวิรัติจะหาอะไรกินง่ายกว่าพวกเจ แค่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ลงไปก็ได้แล้ว ในส่วนของผักอะไรก็กินได้ทุกชนิด ไม่มีข้อห้ามข้อจำกัดนะ

ไหนๆ ช่วงนี้เข้าสู่ช่วงเจ พลอยศรีเลยคิดว่า ฉันก็จะงดเนื้อสัตว์ยาวสักอาทิตย์นึงก็แล้วกัน ยกเว้นช่วงออกงานนอกบ้าน เจออะไรก็กิน แต่ในบ้านจะงดปรุงเนื้อสัตว์สักระยะ ถือเป็นการดีท็อกซ์ร่างกายไปในตัว อาศัยทำไปพร้อมๆกันกับช่วงเทศกาลเค้าเลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเนาะ

เอาหละ เริ่มที่เมนูเมื่อวาน พลอยศรีได้ทำผัดเส้นหมี่ใส่ไข่ไป ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ เนื่องจากเป็นเมนูผัดเส้นหมี่ซีอิ้วดำทั่วไป ใส่ถั่วงอก ใส่เต้าหู้ทอด ใส่ต้นหอมแทนใบกุ้ยช่าย(ไม่มีใบกุ่ยช่าย) และก็ปรุงรสในชาม ใส่ถั่วบด ใส่น้ำตาล มะนาว ซีอิ้วขาว พริกป่น อร่อยไปในหนึ่งมื้อค่ำ

มาเช้าวันนี้ก็อยากกินข้าวและ เพราะเมื่อวานทั้งวันไม่ได้กินข้าวเลย ออกนอกบ้านก็กินเมนูเส้น กลับเข้าบ้านก็ผัดหมี่อีก ..วันนี้เลยอยากจะกินแกงเผ็ดแซ่บๆ รสชาติอาหารไทยที่คุ้นเคย อิอิ

พลอยศรีมีหน่อไม้เส้นอยู่ ซื้อมาจากร้านไทยหนึ่งกิโล เยอะมาก ก็ทำการต้มแล้วแบ่งใส่ถุงแช่แข็งไว้ ..วันนี้คิดว่าอยากกินอะไรเผ็ดๆ เลยทำผัดพริกหน่อไม้แล้วกัน

เครื่องปรุงที่ใช้ก็มีดังนี้ค่ะ

• หม่อไม้เส้นต้มแล้ว
• พริกแกงเผ็ด (ไม่ใส่กะปิ)
• เต้าหู้ทอด
• ซีอิ้วขาว
• ซอสปรุงรส
• น้ำตาลมะพร้าว
• น้ำสะอาด
• น้ำมันสำหรับผัด
• ใบมะกรูด

ก็คือ เตรียมเครื่องผัดพริกปกติแหละค่ะ แต่ปกติเราจะผัดกับไก่ หรือเนื้อสัตว์อื่นๆเท่านั้นเอง .. พลอยศรีบดพริกแกงเองก็ทำปกติแต่ไม่ได้ใส่กะปิลงไปเท่านั้นเอง … เวลาเตรียมทำพริกแกง พลอยศรีจะทำแยกเก็บไว้กล่องนึงที่ยังไม่ใส่กะปิ เผื่อวันไหนจะผัดแบบนี้ ถ้าแบบพริกแกงปกติหมดแต่อยากกินรสดั้งเดิมก็แค่ตักกะปิใส่ลงไปหน่อยนึงตอนผัด

เราทำอาหารเอง ทำกินเองก็จะควบคุมได้ค่ะ จะใส่อะไรหรืองดอะไร วันนี้แกงหน่อไม้เอาแบบมังสวิรัติแท้ๆ ไม่หยอดกะปิ หยอดน้ำปลาเลย ไปผัดกันค่ะ อร่อยนะ ไม่หลอกดาวหรอก ฮาฮา พลอยศรีทำกินประจำ

เริ่มแรกก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปหน่อย ใส่พริกแกงลงไป (บางคนขี้เกียจทำก็ซื้อพริกแกงเจไปเลย ง่ายดี) ผัดพริกแกงกับน้ำมันจนหอม ใส่ใบมะกรูดลงไปนิดให้กลิ่นหอมๆ ผัดจนพริกแตกมันสุกได้ที่ก็เติมน้ำลงไป ต้มให้เดือด

พอน้ำแกงเดือด ก็ทำการปรุงรส ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำซีอิ้วขาว+ซอสปรุงรส … ใส่แล้วชิมให้อร่อย รอให้เดือดอีกทีก็ใส่เต้าหู้ทอด หน่อไม้ต้ม และใบมะกรูดที่เหลือลงไป

ผัดให้เข้ากัน รอให้ทุกอย่างเข้ากัน สุกนิ่มพอใจ ก็ปิดแก็สได้ พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

ตักเสิร์ฟทันที กินตอนร้อนๆ มันอร่อยมากกก รสชาติผัดพริก ที่ไม่มีกลิ่นฉุนเลย เผ็ดๆ เค็มๆ หวานๆ กำลังดี

วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่พลอยศรีมีความสุขมากๆ ความสุขที่ได้รับข่าวดีจากคนในครอบครัวของเราประสบความสำเร็จไปอีกขั้นของชีวิต ถึงแม้ไม่ใช่ตัวเราบ้านเรา แต่คำว่าครอบครัวเดียวกันมันก็หัวใจพองฟู เป็นความสุขที่เรารู้สึกว่าปลื้มปิติมาก

มีความสุขจากการรู้ข่าว และก็มีความสุขกับเมนูอาหารที่เราทำแล้วกินได้อร่อยดี ไม่เบียดเบียนใครเลย เสร็จแล้วก็ได้มีภาพนำมาบันทึกด้วย เป็นวันที่หัวใจฟูๆ กินข้าวเสร็จก็ไปทำความสะอาดบ้านล้างห้องน้ำจนเงาวับ คือพอมีความสุขก็อยากทำงาน ฮาฮา แอบขี้เกียจมาหลายวัน วันนี้ทำซะเงาวับเลย ขำอ่ะ

ช่วงนี้พลอยศรีมีความสุข ปลื้มปิติรายวัน … (แต่บางช่วงงึดหลายก็มีนะ เพราะเราเป็นมนุษย์ปุถุชน ฮาฮา บางทีก็มีแหละอารมณ์ที่อยากจะหยาบคายใส่คนที่พูดจาให้ขัดหูระคายใจ เพราะมุมมองของเราไม่ตรงกัน แต่ก็ดีใจที่พลอยศรีควบคุมอารมณ์ได้ก็ปล่อยผ่านไป และมันจบไปแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น) เราต้องจัดการอาหารการกิน จัดการร่างกาย หน้าที่การงาน และการจัดการอารมณ์ก็สำคัญเช่นกันเนาะ

ความสุขรายวันที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับพลอยศรีหรอก เป็นเรื่องของคนอื่นทั้งนั้น แบบว่าได้คุยด้วย ได้ฟังเรื่องราว และเราก็พาลมีความสุขยิ้มแย้มหัวใจกระเพื่อมฟูไปเอง .. อิอิ ได้พบคนสูงวัยเล่าเรื่องราวโบราณ ฟังแล้วก็พาลให้คิดถึงย่าและยาย มีแต่เรื่องสนุกๆ การฟังเรื่องราวในอดีต ทำให้เราเห็นปัจจุบันที่เป็นอยู่ เห็นอนาคตที่งดงาม เรียนรู้ประสบการณ์ของคนอื่นและนำมาปรับใช้กับตัวเรา

ถ้าเรามองทุกสิ่งอย่างที่มันคัดค้านกับความรู้สึกของเราไปในทางลบ เราก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย แต่ถ้าเราลองเปิดใจ รับฟัง หลับตาคิด มีเวลาก็ทดลองทำดูแม้มันจะขัดกับความรู้เดิมก็ตาม มันก็สนุกดีนะคะ เป็นการ learn ,unlearn and learn again or relearn. นั่นเอง

ตอนนี้ก็หมดเวลาไปอีกหนึ่งวันแล้ว พลอยศรีขอฝากเรื่องราวประจำวันกันไว้แค่นี้แล้วกัน แถมภาพอาหารมื้อเช้าด้วย วันนี้เริ่มต้นมังสวิรัติคือเมื่อเช้าทำกัวคาโมเล่ให้ผู้ชายไปกินที่ทำงาน พลอยศรีก็กินมื้อเช้าเป็นขนมปังกับหัวคาโมเล่ด้วย เนื่องจากทำให้เค้าแล้วก็เผื่อเราด้วยเลยจบไปหนึ่งมื้ออย่างอร่อย .. พลอยศรีเรียกมันว่า “ยำอะโวคาโด้” อิอิ

สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ