สวัสดีค่ะ วันนี้วนมาทำแกงเห็ดอีกแล้ว แต่วันนี้ทำแกงเห็ดใส่โยเกิร์ตด้วย ครั้งก่อนพลอยศรีเคยบันทึกแกงเห็ดมาซาร่าไปแล้วแต่คนละแกงกัน ..
บางทีก็แอบงงๆเนาะ เรียกว่าแกงเห็ดมาซาร่าเหมือนกัน แต่การแกงนั้นแตกต่างกันไป เลยต้องห้อยท้ายไว้ด้วยว่าวันนี้เป็นแกงเห็ดมาซาร่าแบบใส่โยเกิร์ตนะ ฮาฮา
เอาหละ เราจะไม่เสียเวลา มาดูเครื่องปรุงกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไม่ยากเลยค่ะ ของพื้นๆของที่ต้องมีต้องใส่ในทุกๆแกงของอาหารแขก ก็คือ หอมแดง ขิง กระเทียม มะเขือเทศ และก็มาซาร่าทั้งหลาย มีทั้งแบบชิ้นและแบบผงอันได้แก่ พริกป่น ลูกผักชี การัมมาซาร่า บลาๆ ฯลฯ

แกงเห็ดมาซาร่าใส่โยเกิร์ต
- เห็ดกระดุม 250 กรัม
- หอมแขกหั่นเต๋า 2 หัว
- มะเขือเทศหั่นเต๋า 2 หัว
- พริกขี้หนูเขียว 2-3 เม็ด
- ขิงแก่ + กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เนยสดจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงพริกปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
- ผงการัมมาซาร่า 1/2 ช้อนชา
- ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา
- โป๊ยกั๊ก 1 ดอก
- อบเชย เล็กน้อย
- ลูกกระวาน 2 ลูก
- เม็ดยี่หร่า 1/4 ช้อนชา
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 5-8 เม็ด
- ใบเมทิเล็กน้อยหยิบปลายนิ้ว
- โยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือปรุงรส
- น้ำสะอาดประมาณ 1 ถ้วยตวง
เครื่องปรุงครบแล้ว ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนการลงมือปรุง
เริ่มแรกให้เราล้างเห็ดให้สะอาดเอาผ้าซับน้ำให้แห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ หยิบเครื่องปรุงที่เตรียมไว้อย่างละนิดอย่างละหน่อย โรยไปที่เห็ดเพื่อปรุงรส ใส่ใบเมทิและโยเกิร์ตตามลงไป แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้




หลังจากพักเห็ด เราก็ไปเตรียมเครื่องแกงค่ะ ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไปหนึ่งช้อน หรือถ้าไม่พอจะเพิ่มเติมก็ตามสะดวก กะให้พอผัด .. ใส่หอม พริก ขิง กระเทียม และเม็ดมะม่วงลงไป ผัดจนหอมสุกเหลืองทอง เสร็จแล้วใส่มะเขือเทศตามลงไป ผัดต่อจนมะเขือเทศสุกเละ ปิดแก็ส




พักเครื่องแกงให้อุ่นๆแล้วนำไปปั่นให้ละเอียดเนียนดี


ตั้งกระทะใหม่ ใส่เนยลงไปสัก 1 ช้อนแกง ใส่มาซาร่าชิ้น และผงที่เหลือทั้งหมดลงไป ผัดไฟอ่อนๆสักครู่ด้วยไฟเบาสุด (ระวังไหม้จะขม)




ใส่เครื่องแกงที่บดไว้และน้ำนิดหน่อยที่พอล้างโถปั่น ใส่เกลือปรุงรส ผัดให้เข้ากันจนเครื่องแกงแตกมัน ผัดไฟกลางสักประมาณ 5 นาที (จะปิดฝาก็ได้ ถ้ามันกระเด็น นานๆก็เปิดคนทีกันไหม้ก้นกระทะ)




พอเครื่องแกงสุกแล้ว (สังเกตจากมันที่อยู่บนหน้าแกง) เราก็ใส่เห็ดที่พักไว้ลงไป ผัดโดยไม่ต้องใส่น้ำจนกว่าเห็ดจะยุบลง โดยธรรมชาติเห็ดจะมีน้ำอยู่ในตัว เราผัดจนเห็ดยุบตัวแล้ว ถ้าแห้งไปก็เติมน้ำลงไปนิดหน่อย จนได้ความข้นที่เราต้องการ แล้วปิดฝาให้แกงหลอมรวมเข้ากันประมาณ 5-7 นาที คอยเปิดคนบ้างป้องกันไหม้




พอเห็นว่าเห็ดนุ่มดี มีไขมันลอยให้เห็นอย่างชัดเจนดีแล้ว เราก็ปิดแก็สได้เลย
แต่ถ้ามีผักชีสับสักหยิบมือโรยลงไปแล้วผัดให้เข้ากันปิดฝาไว้ แกงจะหอมขึ้นมาอีกเยอะเลย แต่พลอยศรีมีเหลืออยู่แค่นิดเดียว ได้แค่พอตกแต่งหลอกตาให้สวยงาม แต่แค่นี้ก็อร่อยแล้วค่ะ มีรสเปรี้ยว รสเค็ม รสเผ็ดนิดหน่อย ร้อนแรงด้วยผงมาซาร่าให้พอรับรู้
เสิร์ฟคู่กับโรตี หรือจะคู่กับข้าวหุงเนยก็อร่อยนะ



วันนี้ผู้ชายก็กินง่ายๆ อาหารวันหยุด พลอยศรีทำแกงเห็ดมาซาร่าใส่โยเกิร์ต กับโรตี พร้อมด้วยสลัดหอมสดที่ต้องมีคู่กัน พลอยศรีถามผู้ชายว่าวันนี้แกงเป็นอย่างไรบ้าง อร่อยไหม เค้าไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ ฮาฮา พลอยศรีก็เดินไปเดินมา พอมาดูอีกที อ้าวเค้ากินเสร็จแล้วเหลือแต่ถ้วย ขำจัง ตอนจะทำเค้าบอกพลอยศรีว่าเค้าไม่ค่อยชอบแกงเห็ด
พลอยศรีก็รู้ว่าเค้าไม่ค่อยชอบแกงเห็ดเท่าไหร่ แต่ก็กินได้ ก็เลยทำสลับไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอสิ่งที่เค้าชอบ และแกงเห็ดมาซาร่าแบบใส่โยเกิร์ตก็คือสิ่งที่เค้าชอบ เพราะทำแบบไม่ใส่โยเกิร์ตก็กินได้แต่มักจะเหลือ พอใส่โยเกิร์ตทีไรก็จะหมดทุกที แต่ตอนทำพลอยศรีแค่บอกว่าวันนี้จะทำเห็ดมาซาร่า ไม่ได้บอกว่าจะทำแบบไหน และเค้าก็ไม่เคยเข้าไปดู รอกินถึงจะรู้นั่นแหละ
และวันนี้ที่เลือกทำแกงเห็ดก็เพราะ วันนี้จะทำพิซซ่า เราจะใส่เห็ดลงไปในพิซซ่าด้วย แต่เราก็ใช้แค่สองหัวเท่านั้น ที่เหลือเราจึงต้องรีบแกงไม่อย่างนั้นมันจะดำ พลอยศรีก็จะประมาณนี้แหละค่ะ หลังจากทำพิซซ่า หรือ ก่อนทำพิซซ่า เราต้องได้กินเมนูเห็ดกระดุม ถ้าไม่แกงให้ผู้ชาย ก็ผัดให้ตัวเอง แต่วันนี้นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรให้ผู้ชายดี ขี้เกียจทำอะไรยุ่งยากก็เลยจัดการไปกับเมนูเห็ดเมนูนี้
เมนูนี้เครื่องปรุงทุกย่างเราสามารถเปลี่ยนจากแกงเห็ดมังสวิรัติ ไปเป็นแกงไก่ได้นะคะ ทำแบบเดียวกันเลย เปลี่ยนจากหมักเห็ดไปหมักเนื้อไก่แทน ใช้ส่วนอกก็ได้ ส่วนน่องติดสะโพกก็ดีค่ะ อร่อยจริงๆ
พลอยศรีเคยทำเลี้ยงเพื่อนผู้ชายเค้าบอกว่า แกงไก่อร่อยจัง ยิ้มแป้นหน้าบานไป แต่ผู้ชายกินมังสวิรัติ พลอยศรีจึงมาปรับทำกับเห็ดบ้าง ทำกับปาร์นีบ้าง หรือบางทีก็ทำกับดอกกะหล่ำกับมันฝรั่ง เราก็จะได้เมนูที่หลากหลายไป แต่ปรุงแบบเดียวกัน รสชาติก็แตกต่างไปตามรสของวัตถุดิบที่เราใช้
เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน พี่สะใภ้เปิดบ้านชวนเพื่อนมาทานมื้อค่ำกัน และให้พลอยศรีช่วยคิดเมนูอาหารและช่วยกันทำ พี่สาวรับอาสาแกงไก่และแกงปลา ส่วนพลอยศรีให้รับหน้าที่ทำแกงมังสวิรัติ พลอยศรีจึงแกงปาร์นี กับถั่วลันเตาที่ทำวิธีการเดียวกันกับวันนี้ หลานชายมายืนดูอยู่ข้าง บอกแม่ไม่เคยแกงแบบนี้ เค้าแกงแบบไม่ใส่เนย ไม่ใส่นม ไม่ใส่ครีม คือ แกงด้วยมาซาร่ากับน้ำ เป็นอาหารธรรมชาติแบบไม่ค่อยปรุงแต่ง
พอถึงตอนกิน เค้าบอกว่าอร่อยมาก และแกงก็หมดไม่มีเติม แอบรู้สึกผิดด้วยเพราะคิดว่ามีกับข้าวหลายอย่าง ก็ทำแบบไม่ต้องเยอะ แต่สรุปหมดไม่พอกิน และพลอยศรีทำสลัดถั่วลูกไก่ก็หมดอีก งงเลย ทุกคนบอกว่าอร่อยจัง
พี่สะใภ้บอกปกติเค้าแกงถั่วลูกไก่ไม่เคยทำสลัดอะไร เค้าทำกันแบบแกงถั่ว แกงผัก แต่พลอยศรีมีเมนูที่ทำนั่นนี่เพราะผู้ชายชอบกินหลากหลาย พลอยศรีอยู่บ้านก็ดูยูทูบไปเรื่อยๆและก็นำมาหัดทำปรับทำ ไม่มีอาหารใต้ อาหารเหนือ คือเปิดไปเจออะไรน่ากินก็จะฝึกทำรวมทุกภาค ฮาฮา แต่พี่สะใภ้เค้าคือคนใต้อาหารของเค้าจึงอยู่แค่อาหารท้องถิ่นเท่านั้น หลังจากนั้นหลานชายก็บอกว่าให้ทำกับแกงไก่แบบนี้ให้ที พลอยศรีก็ยุ่งออกนอกบ้านทุกวันไม่ได้แกงให้เลย
วันนี้ได้มาบันทึกก็คิดถึงหลานที่ไม่ได้ทำแกงไก่ให้กิน แต่ก็อยากจะบอกว่า แกงนี้อร่อยมากๆกับเนื้อสัตว์มันจะนุ่มและชุ่มฉ่ำมากๆ แต่ก็อร่อยสำหรับคนที่ไม่กินมังสวิรัติ คนที่กินมังสวิรัติก็อร่อยได้นะคะ อร่อยกับผักที่เราชอบ
แกงนี้ถ้าไปที่ร้านอาหารจะเห็นว่ามีไขมันลอยหนา เราทำเองก็ปรับเอานะคะ พลอยศรีไม่ต้องการให้มีมันมากก็ใส่เนยนิดหน่อยพอ ที่ร้านทั้งน้ำมัน ทั้งเนย ไม่ต้องกลัว ดูสวยงามมันวาวเข้มข้น แต่เราทำกินทุกวันก็กลัวนะคะ คริคริ ไม่กลัวเปลืองแต่กลัวไขมันอุดตัน ฮาฮา
ปิดท้ายด้วยผลไม้ มีสับปะรดกับเมล่อน ถึงจะทำอาหารจานเดียว แต่เราก็ทำให้หลากหลายมีผัก มีผลไม้ ให้พร้อม แค่นี้ก็อิ่มง่ายๆ สุขสมบูรณ์ไปอีกวัน
สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ
อ่านเรื่องอื่นๆ