พาญาติท่องเที่ยวมาเลเซีย

สวัสดีค่ะ พลอยศรีหายไปหลายวันเลย เพราะมัวแต่ไปดูแลพาญาติๆออกไปท่องเที่ยวคร้า..

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ญาติของพลอยศรีหกคนเดินทางมาจากประเทศไทย โดยมีจุดมุงหมายมาเยี่ยมหาพลอยศรีและเที่ยวชมมาเลเซียไปในตัว ครั้งนี้มากันเจ็ดวันรวมทั้งวันเดินทาง ก็กำลังดีไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป รวมๆก็ถือว่าดีนะ

พลอยศรีวางแผนการท่องเที่ยวให้คณะญาติครั้งนี้แบบใช้เวลาในเมืองสองวัน และออกไปนอกเมืองสามวัน จุดหมายปลายทางคือ คาเมรอนไฮด์แลนด์ และเมืองอิโปร์ ใช้เวลานอกเมืองกัน สองคืนสามวัน

โดยเช่าเหมารถตู้ตลอดทั้งทริปเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคน รถตู้ไปรับที่สนามบินและอยู่จนส่งกลับ คือดีมากๆค่ะ เดินทางสะดวกนั่งสบาย ทิ้งภาพและเบอร์ไว้ ถ้าใครสนใจติดต่อเค้าได้เลย คนขับพูดไทยได้ชัดค่ะ

ในเมืองเราก็เที่ยวกันตามจุดท่องเที่ยวสำคัญๆที่นักท่องเที่ยวมากันและต้องไปก็คือ ปูตราจาย่า (มัสยิดสีชมพู) ตึกแฝด (Twin towers ) ถ้ำบาตู ซึ่งมีวัดแขกอยู่ข้างใน เป็นถ้ำที่คนอินเดียนับถือมากบอกว่ามีเทพที่ศักดิ์สิทธิ์ปราถนาอะไรถ้าไปขอพรจะประสพความสำเร็จ

(ฟังเค้าพูดมานะ พลอยศรีก็ไม่เคยขออะไร ตอบไม่ได้ว่าจริงไหม แต่คนท้องถิ่นนับถือมากๆ ช่วงงานประจำปีไม่รู้คนหลั่งไหลมาจากไหน คนเป็นแสนเป็นล้านจริงๆ ไม่ได้โม้ แต่พลอยศรีไม่เคยไปเลย กลัว ฮาฮา)

เรามาเริ่มพาทัวร์กันดีกว่า เริ่มแรกเลยวันแรกที่ลงเครื่องก็ครึ่งวันพอดี เราก็พากันแวะกินอาหารกลางวันที่ในสนามบินก่อน พออิ่มหนำสำราญกันแล้วกก็พากันไปต่อที่มัสยิดสีชมพู เพราะว่าเป็นทางผ่านกลับบ้านและอยู่ไม่ไกลมากนักจากสนามบิน

ที่นี่ทุกคนก็หามุมถ่ายรูปกัน และก็เดินเข้าไปชมข้างในใส่ชุดสีแดงเลือดนก( เอ๊ะหรือเลือดหมูแล้วแต่จะเรียก) เดินชมสถาปัตยกรรมแบบอิสลามกันพอหอมปากหอมคอ ถ่ายรูปกันพอใจ ก็ได้เวลากาแฟ เราบอกคนขับรถว่าช่วยพาไปร้านกาแฟสตาร์บัคใกล้ๆตรงไหนก็ได้ คนขับรถบอกได้และก็พาเคลื่อนย้ายไปสักห้านาทีก็ส่งลง

ร้านสตาร์บัคอยู่ริมถนนใกล้ๆมัสยิสสีชมพูเลย เราสั่งกาแฟมาคนละแก้วขนมสองสามชิ้นและก็นั่งคุยกันสัพเพเหระ ร้านกาแฟร้านแรก เริ่มต้นขึ้นแล้ว ฮาฮา เราเลือกสตาร์บัคเพราะมันสากล เข้าแล้วมีที่นั่งสบาย รสชาติกาแฟจะไม่ผิดหวัง ไม่ต้องสุ่มเสี่ยงเดา เพราะทุกคนคุ้นเคย

จบจากร้านกาแฟ เราก็พากันกลับเข้าบ้าน มาถึงบ้านก็ประมาณสี่โมงเห็นจะได้ ทุกคนก็เข้าห้องพักผ่อนกันตามอัทยาศัย เสร็จแล้วก็ออกมานั่งคุยกัน มื้อค่ำเรามีแกงส้มใต้และแกงไตปลา ปลาทอด เราทานกันในบ้านแบบง่ายๆ พลอยศรีสั่งแกงมา แค่หุงข้าวอย่างเดียว ไม่ยุ่งยากเลย

พอมื้อเช้าก็ง่ายๆ ขนมปังกาแฟ และแกงส้มเมื่อวาน ไข่ต้ม ทุกคนก็สบายๆ กินมื้อเช้าเสร็จเรานัดรถให้มารับที่เก้าโมงครึ่ง ออกไปเที่ยวถ้ำบาตู และก็ไปที่ตึกแฝด วันนี้โปรแกรมไม่หนัก เที่ยวสองที่และเน้นช๊อปปิ้ง

วันนี้พลอยศรีลุ้นสุดๆเลยค่ะ เพราะว่าฝนทำท่าจะตก ดูมืดครึ้มไปหมด ก่อนหน้านี้สองวันฝนตกทั้งวันเลยหนักบ้างเบาบ้าง แต่เราอยู่ในบ้านก็ไม่เป็นไร แต่ญาติจะมาเที่ยวสักหนฝนตกตลอดก็ไม่สนุกนะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็โชคดีมากๆ คือ ฝนตกปรอยๆแต่พอถึงสถานที่เที่ยวชมฝนก็หายแบบสั่งได้ คือเดินร่มรื่นและไม่ร้อนเลย และก็โชคดีอีกเพราะทุกคนกลัวแดด ที่มาเลย์ถ้าฝนไม่ตกคือแดดร้อนมาก วันนี้ก็คือโชคดีมากๆค่ะ

เราไปทานอาหารกลางวันกันที่ตึกแฝด ร้านอาหารมาเลย์ ชื่อว่าลิตเติลปีนัง เพราะอยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารมาเลย์ วันนี้พลอยศรีชวนเพื่อนสนิทมาพบญาติด้วยมาทานอาหารด้วยกัน เราก็สั่งมาพวกอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ แต่พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ก็กินกันแบบอะไรวางเราก็ตัก ฮาฮา พี่ที่มาด้วยบอกอะซำลักซาอร่อย พลอยศรีก็ดีใจและ อย่างน้อยมีบางอย่างอร่อย

จบจากการกินมื้อกลางวันก็ไปเดินช๊อปปิ้งกันในตึกแฝดนั่นแหละ สายช๊อปจริงๆค่ะ เข้าร้านไหนก็ได้เสียสตางค์ ฮาฮา สองอาได้ผ้าคลุมบ่ากันมาคนละผืน และทุกๆคนก็ได้เสื้อผ้ากันมาคนละชุดสองชุด พลอยศรีไม่ซื้ออะไรเพราะเดินประจำอยู่แล้ว รู้สึกชินและเฉยๆ

เสร็จแล้วก็ไปต่อร้านผ้ามาเลย์ เพื่อไปหาซื้อผ้า ก็ได้กันมาอีกคนละชุดสองชุด และผ้าตัดอีกหลายเมตร จากนั้นก็เข้าบ้านพักผ่อน มื้อค่ำคืนนี้ผู้ชายจะเลี้ยงอาหารอินเดียในเมือง เราจึงเข้าบ้านพักผ่อนกันแต่หัววัน

พอค่ำๆได้เวลาเราก็ไปร้านอาอาหารอินเดียกัน ขอบคุณน้องสาวพลอยศรีที่ถ่ายรูปไว้ ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีรูปอีกเช่นกัน คริคริ

กลับเข้ามาถึงบ้านก็สามทุ่มแล้ว เราก็พักผ่อนกัน เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็ออกเดินทางไปต่างจังหวัด คือ ไปแคมารอน ไฮด์แลนด์

ใช้เวลาเดินทางประมาณสามสี่ชั่วโมงก็ถึง วันนี้มีรถบนถนนค่อนข้างเยอะ เพราะว่าโรงเรียนปิด ผู้ปกครองก็พาเด็กๆออกไปท่องเที่ยวกันเนาะ เราไปถึงที่คาเมรอนฯ ประมาณบ่ายสองโมงครึ่งเห็นจะได้ ก็รู้สึกหิวข้าวกันมาก ทุกคนอยากกินข้าวผัด และก๋วยเตี๋ยว เราจึงบอกคนขับรถให้พาไปหาก๋วยเตี๋ยวกิน (พลอยศรีคิดไปถึงราดหน้าร้านจีน แต่คนขับรถเข้าใจว่าก๋วยเตี๋ยวไทย )

คนขับรถก็กดจีพีเอสพาไปร้านไทย ร้านนี้มีเรื่องขำ คือ อาหารไทยหลอกลวงมาก สั่งอะไรมาก็ไม่ตรงปกสักอย่าง แต่พวกเราก็กินกันไปเพราะหิวแล้ว ฮาฮา ตอนที่รถจอดหน้าร้านเห็นรูปที่ติดไว้ตามข้างฝาคือ นั่งยิ้มแป้นกันเลย ก๋วยเตี๋ยวไก่ ไอติมกะทิ ข้าวเหนียวไก่ย่างคือดี เสียงกระทะในครัวดังโคล้งเคล้งๆ คิดว่าเสียงแบบนี้อาหารต้องอร่อยแน่ๆ

สรุปว่าสงสัยเค้าจะปริ้นภาพมาจากอินเทอร์เน็ต ฮาฮา อากับป้าสั่งข้าวไข่เจียวมากิน ถูกใจสุด น้องสาวพลอยศรีบอกส่องภาพดีๆสิ เผื่อเป็นภาพที่ชั้นถ่ายไว้ ขำกันหนักมาก ก็เป็นประสบการณ์สนุกๆที่เราเอาเรื่องผิดพลาดมาขำกันได้

กินข้าวเสร็จก็ไปเที่ยวชมไร่ชากัน แต่คาเฟ่ที่นี่ก็ไม่ไหวเลย คือเค้ามีวิวสวยนะ แต่เค้าไม่ค่อยได้ทำให้น่าหลงไหลเท่าไหร่ และด้วยความที่มีคาเฟ่แค่แห่งเดียวผู้คนก็เลยมาแออัดอยู่ที่นี่กันอย่างล้นหลาม พลอยศรีก็พากันเที่ยวชมรับอากาศเย็นสบายๆ และก็พากันกลับที่พัก ไปหากาแฟดื่มที่คาเฟ่ใกล้ๆที่พัก มีหลายร้าน (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ สั่งแล้วชิลล์)

ค่ำๆถ้ามาคาเมรอนฯ ก็ต้องไปกินสุกี้หม้อร้อน ก็ตามแผนการค่ะ เราขึ้นไปกินสุกี้หม้อร้อนกัน แล้วก็ไปเดินตลาดนัดกลางคืน ซื้อขนมกิน ทุกคนบอกว่าอากาศหนาว แต่พลอยศรีรู้สึกว่าไม่มาก กำลังดี แต่ป้าและอาๆยืนกันตัวสั่นหงึกๆ

กลับเข้าที่พัก เราจองที่พักแบบอยู่รวมกัน คือดีมากๆ มีสองสามห้องนอน ห้องรับแขก มีพื้นที่กว้างขวาง ช่วงกลางคืนเราก็มารวมตัวนั่งคุยกัน ดื่มเครื่องดื่มชิลล์อยู่นะ

วันรุ่งขึ้นเราพากันไปชมสวนแคสตัส และก็ไปเที่ยวชมสวนลาเวนเดอร์ พลอยศรีชอบสองที่นี้มากเพราะว่ามีดอกไม้เบ่งบานสวยงาม คือชอบดอกไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เลยอิ่มเอมสุขใจ

เที่ยวในคาเมรอนฯเสร็จ เราก็พากันถอยลงมาที่อิโปร์ เมืองนี้ก็เป็นเมืองเล็กๆ แต่ว่ามีอะไรให้ดูให้ชมอยู่ เรามาถึงก็มุ่งตรงไปที่ร้านข้าวมันไก่ สั่งอาหารเมืองอิโปร์

เสร็จแล้วก็ไปเดินเที่ยวกัน สายช๊อปปิ้งก็ได้เสื้อผ้ามาอีกแล้ว สายคาเฟ่ก็ไม่พลาด ช๊อปปิ้งเสร็จก็แวะคาเฟ่หากาแฟดื่ม นั่งพักผ่อนชิลล์ไป จากภาพจะเห็นถนนคนเดินมีร้านค้าเยอะเลย ข้างบนเป็นคาเฟ่บรรยากาศดีมีที่นั่งเยอะ น้องสาวพลอยศรีก็เช่าชุดแฮรี่พอตเตอร์มาถ่ายภาพ

ดื่มกาแฟเสร็จก็ไปแวะวัดอีกที่และก็กลับเข้าที่พัก พักผ่อนกันแป๊บนึงมองเห็นห้างอยู่ไม่ไกล อ้าวพากันออกไปห้างอีก ขำมาก สายช๊อปจริงๆ ไปห้างก็ได้กันอีกคนละชิ้นสองชิ้น

พอค่ำก็มากินอาหารท้องถิ่น อยู่ใกล้ๆที่พัก กินเสร็จก็เดินกลับที่พัก ที่พักคืนนี้ก็เป็นห้องอยู่รวมกัน คือเป็นคอนโดเค้าปล่อยเช่าเป็นที่พัก มีสามห้องนอน ห้องนั่งเล่น มีเตียงสำหรับนอนได้แปดคน กว้างขวางชอบมาก

ตอนเช้าเราเช็คเอาท์เสร็จก็พากันไปกินติ๋มซำเป็นมื้อเช้า และก็พากันไปเที่ยวชมวัดขึ้นชื่อในอิโปร์ ทุกคนก็ชอบบรรยากาศในวัดมาก ดูสงบร่มรื่น

จบจากอิโปร์ก็พากันเข้าเมืองไปเที่ยววัดแขกศรีมหามาเรียมมันที่อยู่ในใชน่าทาวน์

วัดนี้ก็คนมาเยอะ เป็นวัดแขกที่เข้าถึงง่าย เพราะอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีทั้งรถไฟไฟ้าสาย LRT และ MRT แบบว่าลงรถเดินไปหน่อยก็ถึง มาจากไหนก็ได้ ให้ลงที่สถานี Pasar seni รอบๆวัดแขกจะมีตลาดคนจีน คาเฟ่ และถนนคนเดิน

พลอยศรีอยู่มาเลย์มาหลายปี เอาจริงๆ ที่มาเลย์ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรให้เที่ยวมากนักนะ จุดหมายหลักๆที่นักท่องเที่ยวมาก็นี่แหละ ตึกแฝด เก็นติ้ง (ไม่ได้ไป เพราะเราไปคาเมรอนฯ) ถ้ำบาตู และอิโปร์ บางคนอาจจะไปมะละกา ปีนัง และลังกาวีด้วย แต่ถ้าให้มองภาพรวม มะละกาก็เมืองเล็กๆทุกอย่างดูคล้ายภูเก็ต ส่วนปีนังก็อธิบายไม่ถูกเคยไปแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรมาก ทะเลลังกาวีก็ไม่สวยเท่าไทยพลอยศรีจึงตัดเมืองพวกนี้ออกไป

เราไม่อัดทัวร์แน่นมากนัก เพราะว่าญาติๆก็สูงวัยกันหมดแล้ว วัยหกสิบกลางๆไปปลายๆใกล้เจ็ดสิบ ดังนั้นก็ไปกันแบบเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก พลอยศรีคิดว่าทุกคนก็คงสนุกดีนะคะ ดูภาพรวมก็ไม่มีบ่นคอมเพลนอะไร นอกจากอาหารที่ไม่ค่อยจะถูกปากสักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าที่อร่อยสุดก็คงจะเป็นมื้อข้าวมันไก่

มื้ออื่นก็จะประมาณว่ากินได้แต่ไม่แซ่บอีหลี ฮาฮา เอ่ยปากว่าคิดถึงส้มตำ คิดถึงน้ำพริกกะปิกันเลยทีเดียว อันนี้ขำมาก

พอกลับเข้าบ้านได้ก็ตำน้ำพริกเจียวไข่ เปิดปลากระป๋องกันสนุกสนาน อันนี้ขำมาก กินข้าวกันหมดหม้อ แอบสงสารด้วยนะ เห็นใจแหละ อาหารจีนมันก็จะจืดๆเนาะ อาหารแขกก็มีกลิ่นเครื่องเทศ อาหารมาเลย์ก็บอกไม่ถูกมีบ้างอย่างอะซำลักซา ที่พอจะกล้อมแกล้มไปได้เพราะเป็นซุปเปรี้ยวเค็มหน่อยๆ

จากนั้นระหว่างวันเราเราก็ไปซ่องสุมกันอยู่ตามคาเฟ่ ร้านกาแฟ อันนี้ก็ขำมากๆเลยค่ะ คือ ลูกสาวของอาคนหนึ่งบอกว่า แม่กลับไปเล่าให้ฟังว่า “จิเมริงอ่ะมาได้ เดี๋ยวก็เข้าร้านกาแฟ เดี๋ยวๆเข้าร้านกาแฟอีกและ ฮาฮา )

จริงๆพวกเราซ่องสุมกันกับร้านเครื่องดื่ม มีหลากหลายแต่เราไม่ได้ถ่ายกัน ผู้ใหญ่เค้าไม่ค่อยสนใจภาพถ่ายเท่าไหร่ เค้าสนใจกินและคุยกัน พลอยศรีก็ไม่ค่อยสนใจจะถ่ายภาพของคนอื่น อันนี้มาจากน้องสาวที่เค้าส่งให้มา นางถ่ายไว้นิดๆหน่อยๆพลอยศรีก็ขอมาเล่าเรื่อง คริคริ

คือก็อย่างที่บอกนะคะ ทัวร์ผู้สูงวัย เดินมากจะเหนื่อย และทุกคนก็ดื่มกาแฟไง ดังนั้นพอเหนื่อยนักเราก็พักร้านกาแฟ อันนี้บอกเลยถ้าคนที่ไม่ดื่มกาแฟและชอบไปแบบชะโงกทัวร์หรือทัวร์ไฟไหม้นี่เค้าด่าตายห้าเลย ไม่ได้ไปดูอะไรหรอกมาหมดเวลากับร้านกาแฟ

เพราะพวกทัวร์ไฟไหม้เค้าจะชอบแบบวันนึงเดินทางไปทุกจุดไฮไลท์ถ่ายรูปประทับสักสองสามทีและก็ไปต่อ แต่พวกเราเหรอ เดินชั่วโมงนึงและก็เข้าไปแช่อยู่ร้านกาแฟอีกชั่วโมงนึง คริคริ พวกเราเน้นว่าใช้เวลาร่วมกัน คุยกันเสียมากกว่า มีเรื่องคุยกันเยอะมากจริงๆ แต่ก็เป็นความสุขในแบบของพวกเรานะ

พลอยศรีว่าเราก็จัดไปตามวัย วัยเด็กมีกำลังอยากไปไหนก็ไป วัยสูงอายุหน่อยก็ไปๆพักๆ พวกเค้าก็ดูเห็นมาเยอะแล้ว จริงๆก็แค่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศ บินมาเยี่ยมลูกหลานและเที่ยวชมนิดหน่อยอะไรงี้ ไปที่ไหนมันก็ไม่ต่างกันมากกับบ้านเรา อย่างไปเที่ยวคาเมรอนฯ ก็จะอารมณ์ไร่ชาที่เชียงราย หรืออากาศเย็นๆที่เขาค้อ ประมาณนั้น เน้นเดินดู นั่งคุยกัน ใช้เวลาร่วมกันพี่ๆน้องๆ

พลอยศรีก็ทำหน้าที่ไปเท่าที่สมควรจะทำ ก็ถือว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ดีแล้วค่ะ ผิดพลาดไหมก็ไม่รู้ ถ้าผิดพลาดก็คงต้องขออภัยกันไปแหละ แต่ก็อยากพาไปเที่ยว ไปกิน ไปดูของท้องถิ่น อาจจะไม่ถูกปากถูกลิ้นบ้างก็อย่างว่า อาหารชาติเขาเขาก็ทำตามที่คนในชาติเขากินเนาะ พลอยศรีก็ยังทำอาหารไทยกินเองทุกมื้อเลย ถ้าออกข้างนอกก็ต้องตามเค้าไปแหละ คริคริ

พวกเราคุยกันว่า ภาพรวมก็สวยดีนะ แต่ก็เหมือนว่ายังไปไม่ไกลมากนักในเรื่องของการท่องเที่ยว ดูๆแล้วธรรมชาติของเค้าก็สวยดี แต่ภาคบริการก็ยังไม่ค่อยว้าว อะไรที่จะดึงดูนักท่องเที่ยวก็ยังมีไม่มาก อะไรที่เคยเห็นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็ยังอยู่เหมือนเดิม และก็ไม่มีอย่างอื่นมาเพิ่มเติมมากนัก

แต่ก็อย่างว่า มาเลเซียเค้าเป็นประเทศที่เน้นไปทางด้านธุรกิจ ไม่ได้เน้นในเรื่องของการท่องเที่ยว เลยไม่มีนโยบายอะไรที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว สังเกตว่าถ้าออกไปเที่ยวนอกเมืองนี่ก็มีแต่คนท้องถิ่น คนในมาเลย์จริงๆนะ ร้านอาหารอะไรก็เอื้อไปทางท้องถิ่นมากกว่าสากล ก็มีแหละแต่น้อยและไม่ค่อยมีตัวเลือก

ก็จบทริปไปแล้วค่ะ ส่งแขกกลับเรียบร้อย สบายใจ คุยกันไว้ว่าทริปหน้าทำตัวให้แข็งแรงแล้วไปเจอกันที่อินเดีย อีกสองปีไปเที่ยวอินเดียกัน ทริปรวมญาติ นานๆก็นัดรวมกันที คณะนี้ปีที่แล้วเราเจอกันที่ภูเก็ต ปีนี้เราเจอกันที่มาเลย์ ปีก่อนหน้านี้เราเจอกันที่พม่าสนุกสนานค่ะ

ปล. ทิ้งท้าย ทริปก่อนหน้านี้สามปีที่แล้ว ช่วงโควิดก่อนประเทศล๊อกดาวน์ไม่กี่วัน คณะญาติฝั่งแม่มาเยี่ยมพลอยศรีเจ็ดวันเช่นกัน คณะนั้นมากันเจ็ดคน พลอยศรีก็พาไปเที่ยวแบบนี้แหละ แต่ไม่ได้ไปคาเมรอนฯ ได้พากันไปเก็นติ้ง ไปมะละกา แต่จนบัดนี้ยังไม่ได้บันทึกเรื่องราวเลย แบบว่าจะๆและก็ผ่านไป ฮาฮา นี่คณะใหม่มาจนกลับไปและ คิดดูเราก็รับญาติสองฝั่งครบและนะ ฝั่งพ่อ ฝั่งแม่ มากันครบทั้งตระกูลแล้วสบายใจ

วันนี้ลาไปก่อน สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s