สวัสดีคืนวันอาทิตย์ วันนี้พลอยศรีมีเรื่องข้าวโพดมาเล่า
เมื่อวานเดินซื้อกับข้าว เห็นข้าวโพดวางกองอยู่ ไปแหวกๆดู อืม สดใช้ได้ เลยหยิบมาให้พอกิน
และวันนี้เป็นวันอาทิตย์ พลอยศรีต้องเปิดเตาอบ เพื่ออบพิซซ่าให้ผู้ชาย ในขณะที่อุ่นเตาให้ร้อน ก็คิดได้ เห้ย!! เปิดเตาอบแล้ว ทำข้าวโพดย่างดีกว่า เปลี่ยนจากข้าวโพดต้มมาย่างบ้างก็ย่าจะดี
คิดเสร็จ ก็หยิบข้าวโพดมาลอกเปลือกออก เหลือเอาไว้นิดหน่อย และโยนเข้าเตาไปสามฝัก เปิดไฟที่ 230 องศาเซลเซียส ไฟบนล่าง ย่างทิ้งไว้ 30นาที
เห็นเปลือกไหม้แล้วก็เอาออกมา ในระหว่างย่าง ก็หมุนกลับด้าน เป็นระยะๆ กลิ่นหอมมากเลย


ประมาณ 30 นาที เอาออกมา ข้าวโพดสุกนิ่มแล้ว ลอกแกะดู นิ่มหลุดจากฝักอย่างง่ายแล้ว กินได้เลย แต่พลอยศรีอยากให้มันไหม้ๆ หอมๆ และปรุงรสสักหน่อย เลยเอามาใส่กระทะปิ้งอีกรอบ


ใส่กระทะปิ้ง เปิดไฟกลางๆ ให้กระทะร้อน เอาข้าวโพดที่สุกแล้ววางลงไป หมุนๆ ให้เห็นรอยไหม้ๆนิดหน่อย (ตอนนี้หอมเลย) ระหว่างนี้ เอาแปรงป้ายเนยเค็มแล้วทาไปทั่วๆข้าวโพด เพิ่มความหอม เพิ่มความอร่อย
กินได้แล้วค่ะ แต่ยังไม่พอใจ เอามะนาวมาผ่าครึ่งและทาไปทั่วๆ เสร็จแล้ว โรยผงพริกปาปริก้าไปอีกหน่อย …. ได้รสเค็ม เผ็ด เปรี้ยว ถูกใจเลย
เมนูนี้ เราจะพบเห็นได้ทั่วไป เวลาไปอินเดีย ข้าวโพดปิ้งริมทาง ทาเนยโรยผงมาซาร่า โรยเกลือดำ แต่พลอยศรีเอาแค่ผงพริกพอ แค่นี้ก็อร่อยแล้วค่ะ


กินตอนร้อนๆอร่อยจัง กินไปสองฝัก อิ่มมากมาย ผู้ชายก็เป็นผู้ดีไม่เปลี่ยน คือแทะจากฝักไม่ได้ ต้องไปฝานใส่ถ้วย ใส่ช้อนมาให้ตักกิน ฮาฮา เราอยู่กันได้ ขำจัง
นี่ขนาดว่าปิ้งในเตาอบนะ ยังหอมเลย ถ้าเป็นเตาถ่านคงหอมไกลกว่านี้ พลอยศรีคิดว่าใส่เปลือกไปด้วย ถ้าเปลือกไหม้กลิ่นไหม้ก็จะช่วยส่งกลิ่นหอมให้เนื้อข้าวโพดของเรา … แก้ไขไปตามสิ่งที่เรามีนะคะ
ย่างข้าวโพดสุก ก็โยนถาดพิซซ่าของผู้ชายเข้าอบต่อ ช่วงที่รอพิซซ่าสุก พลอยศรีย้ายข้าวโพดจากเตาอบไปวางบนกระทะ ย่างต่ออีกสักครู่ ผ่านไปห้านาที สิบนาทีทุกอย่างก็สุกพร้อมๆกัน และเราก็มานั่งกินด้วยกัน ต่างคนต่างอาหาร อิอิ


คืนนี้ดึกแล้ว ขอตัวลา คืนนี้พลอยศรีกินง่ายๆ ข้าวโพดย่างปรุงรส อีกหนึ่งอาหารที่ทำได้ ไม่ยาก และอร่อยด้วย สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ