สวัสดีค่ะ สวัสดีย้อนหลังวันลอยกระทง พลอยศรีหายไปหลายวันอีกแล้ว มีเรื่องให้วิ่งวุ่นออกไปทางนั้นทางนี้ พออยู่บ้านก็ติดขี้เกียจซะหลายวัน วันนี้พร้อมแล้วค่ะ มาทักทายกันสักหน่อยก่อนจะลืมกันนะ
วันนี้ขอทักทายกันด้วยเมนูของอร่อยที่พลอยศรีชอบกินสมัยเด็กๆ จะหากินได้ตามงานวัด หรือตามตลาดหน้าโรงเรียน หน้ามหาวิทยาลัย แต่สมัยนี้เดินหาไปทั่วไม่เคยได้กินเลย กลับไทยกี่ครั้งเจอร้านลูกชิ้นเนื้อ เราก็ปรี่เข้าไป อยากกินแบบที่มีเอ็นแบบสมัยเด็กๆก็หาไม่เจอ มีแต่ลูกชิ้นเนื้อแท้ ที่ได้ความเด้งแต่ขาดรสชาติของวันวาน
ความที่เราชอบกิน หากินไม่ได้ก็ทำมันเองเลยค่ะ ตั้งแต่มาอยู่ต่างแดน นอกอาณาจักรไทยเราก็ต้องฝึกทำเองทุกอย่างที่เราอยากจะกิน พลอยศรีก็ทำไปเรื่อย แหนมเอย ไก่ยอ ลูกชิ้นไก่ น้ำจิ้มต่างๆ ทำจนสามารถทำได้สบายแล้ว ไม่เดือดร้อนถ้าอยากจะกิน วันนี้ก็ลามปามมาถึงลูกชิ้นเนื้อเอ็นบ้างละนะ
กระบวนการก็เหมือนกับการทำลูกชิ้นหมูไก่ทั่วๆไป แค่เปลี่ยนมาใช้เนื้อ และเลือกใช้ส่วนที่มีเอ็นติดด้วย มันก็จะได้ความฟินเว่อร์เวลากัดกิน คริคริ เอาหละ ไปดูส่วนประกอบที่พลอยศรีทำกันเลย
สูตรนี้ได้ดูมาจากเพจกินอยู่อย่างไทยในต่างแดน เห็นเค้าทำออกมาสวย บอกสูตรไว้ด้วย แต่เค้าทำกับหมูนะ พลอยศรีเอามาดัดแปลงทำกับเนื้อ เพจนี้จะมีแม่บ้านเอานั่นเอานี่มาแบ่งปันกันอยู่เรื่อยๆ กราบขอบพระคุณงามๆไว้ตรงนี้เลยค่ะ
เพราะบางอย่างเราก็ทำเป็นแต่ขี้เกียจ ทีนี้พอเห็นคนทำตามกันเยอะๆเราก็เกิดแรงบันดาลใจอยากจะทำบ้าง และอยากจะลองสูตรใหม่ๆบ้างอะไรแบบนี้ บางสิ่งเราทำได้แต่มันยังไม่ดี ก็จะมีหลายๆคนเข้ามาบอกเทคนิคและวิธี คือเราก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน ชอบมากเลยค่ะ ทุกคนเป็นครูกันคนละอย่าง
เอาหละทำเลย วัตถุดิบตามนี้

- เนื้อวัวติดเอ็น 500 กรัม
- น้ำตาล 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1 +1/2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำเย็น 100 ml.
- พริกไทยป่น ตามชอบ (ในภาพลืม แต่ทำตอนใส่)
เมื่อเราได้วัตถุดิบพร้อมแล้วก็ให้นำไปปั่นผสมกันให้ละเอียดเนียนดี
พลอยศรีทำแบบวิธีการของตัวเอง คือ หั่นเนื้อใส่กะละมังผสม ผสมทุกอย่างแช่ไว้5-10 นาที ช่วงที่แช่ก็ไปทำอะไรอย่างอื่น มีความอยากให้ทุกอย่างมันเข้าเนื้อดี


พอพักไว้ครบเวลาก็เอามาปั่น ปั่นให้ละเอียดเนียนเลย อยากได้แบบปั้นสวยๆก็ต้องให้เนียนกริบ แต่พลอยศรีมันมีเอ็นด้วยก็จะมีบ้างที่ขยุกขยิก ปั่นเสร็จนึกได้ลืมพริกไทย เลยเอามาผสมในกะละมังให้เข้ากัน
จากนั้นก็ให้เอาเนื้อที่ปั่นแล้วไปแช่ช่องแข็งให้เย็นจัดสัก 2 ชั่วโมง ขั้นตอนนี้จะช่วยในเรื่องของความเด้ง ถ้าเนื้อไม่เย็นจัด เราจะได้ความรู้สึกของลูกชิ้นเนื้อยุ่ยๆแบบลูกชิ้นหมูบะช่อในต้มจืด หรือไม่ก็ลูกชิ้นเนื้อที่อยู่ในสปาเก็ตตี้ คือ มันไม่ฟินเอาซะเลย ดังนั้นเราต้องอดทนค่ะ เอาไปแช่แข็งทิ้งไว้ก่อน




สองชั่วโมงผ่านไป เอาออกมา นวดๆให้เข้ากันอีกที ขั้นตอนนี้เย็นมือมาก เพราะว่าเนื้อเริ่มจะแข็งหนืดๆ ความรู้สึกดีเกิดขึ้นแล้วหนึ่ง เย็นมือแบบนี้ เด้งแน่ๆ
ระหว่างที่นวดๆให้ลูกชิ้นหลังจากออกจากตู้เย็นเราก็ตั้งน้ำเพื่อต้มลูกชิ้นรอไปพลางๆ ต้มให้น้ำเดือดพล่านเลย เสร็จแล้วเบาไฟสุดให้น้ำนิ่งสนิท เพื่อป้องกันลูกชิ้นแตกซุย เราเบาไฟน้ำนิ่ง แต่น้ำมีความร้อน เราหย่อนลูกชิ้นลงไป ลูกชิ้นจะค่อยๆสุกแบบช้าๆ พอสุกแล้วก็จะลอยตัวขึ้นมาเอง




ใช้เวลาประมาณ 20-30นาที หย่อนใส่แล้วทิ้งไว้ นานๆเดินมาดูได้ เนื่องจากเราไม่เร่งไฟแรงให้สุกเร็ว จึงค่อนข้างใช้เวลา ระหว่างนี้ก็ทำความสะอาดนั่นนี่รอไป
พอลูกชิ้นลอยตัวขึ้นมาแล้ว เราก็ตักออกและเอาไปแช่น้ำเย็นจัดทันที ขั้นตอนนี้เป็นการน๊อคสุกอีกที เคยฟังการเล่าของเชฟเค้าบอกว่า การที่เราตักขึ้นมาน๊อคด้วยน้ำเย็นจัดทันทีเนื้อจะตกใจทำให้เกิดการหดชะงักอะไรเนี่ยแหละ ลืมแล้วอาจจะผิดพลาด แต่ก็ประมาณนี้แหละ ตักขึ้นมาแช่น้ำเย็นจัดเพื่อความเด้งที่เค้าบอกต่อๆกันมา แล้วเราก็ทำตามต่อๆกันไป ฮาฮา
พลอยศรีตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด ทิ้งไว้ประมาณ 5นาที รอจนแน่ใจว่าเนื้อของเราเย็นสนิทจึงตักขึ้น ทดลองผ่าดู ไม่ได้เลือกลูก หยิบมาสุ่มๆผ่าดู โอ้ เด้งแน่นดึ๋งๆ เวลาบีบดูก็ดีดกลับ สะใจพลอยศรียิ่งนัก เสร็จแล้วใส่ปากชิม อืมรสชาติดี ทุกอย่างดีเลย
เราปั้นแบบไม่เนียนสวย เนียนกริบนะ ก็อย่างที่บอกข้างต้น เรามีเอ็นด้วยจะให้เนียนแบบเนื้อล้วนมันไม่ได้จริงๆ เพราะเส้นเอ็นมันประปราย เป็นสายใยอยู่ แต่พอทำออกมาแล้วมันใช่เลย นี่แหละลูกชิ้นเนื้อเอ็นในตำนานที่ฉันเฝ้าตามหา




เสียบไม้ถ่ายรูปให้ดูว่าเดี๋ยววันนึงเราจะเสียบไม้ปิ้ง โถชีวิต มาไกลถึงกับต้องทำกินเองแล้วหนา แต่ว่ามันไม่ยากเลยค่ะ ทำได้แต่ติดขี้เกียจอย่างว่า ฮาฮา ทำเสร็จแล้วก็แพ็กเก็บใส่ถุงซิปแช่ช่องแข็งเอาไว้กินนานๆ

ทีนี้น้ำต้มลูกชิ้นเมื่อสักครู่ กรุณาอย่าได้ทิ้ง เพราะว่ากลิ่นเนื้อหอมกรุ่นมากเลย พลอยศรีจัดการ เอาเครื่องเทศที่เรามีในบ้านใส่ลงไป อันได้แก่ ไม้หอมอบเชย โป๊ยกั๊ก พริกไทยดำ เกลือนิดหน่อย และใส่ต้นเซอลารี่ ขึ้นช่ายฝรั่งลงไป (จะใส่สามเกลอก็ได้ แต่พอดีมีเซอลารี่ต้นใหญ่ เลยขี้เกียจโขลกสามเกลอ ฮาฮา )



ต้มน้ำเพิ่มความหอม แล้วลวกหมี่กับลูกคะน้าใส่ชาม ตักน้ำต้มหอมๆราดลงไป ใส่ลูกชิ้นที่เราทำเอง ใส่ใบขึ้นช่ายสักหน่อย โรยกระเทียมเจียวนิด โอ้โฮ บะหมี่ลูกเนื้อน้ำใส อร่อยมากกกก

วันนั้นอิ่มอร่อยฟินเว่อร์วังอลังการณ์ไปกับลูกชิ้นบะหมี่น้ำใส คือ ทำทีเดียวต่อยอดไปได้อีกเมนู
วันนี้หลังจากแช่ลูกชิ้นไว้ในช่องแข็งหลายวัน วันนี้อยู่บ้านไม่ออกไปไหน พอบ่ายๆก็หิวนะ เปิดตู้หยิบเอาลูกชิ้นออกมา ใส่ไมโครเวฟไฟแรงสุด กดหนึ่งนาทีเพื่อให้ความแข็งคลายตัว
เสร็จแล้วก็เสียบไม้เอาไปปิ้งย่าง กลิ่นหอมมากมาย มาอีกแล้วกลิ่นและสิ่งที่ตามหา เสร็จแล้วก็เอามาจิ้มน้ำจิ้มมะขามเปียกที่ทำเองเก็บไว้ แฮปปี้สุดๆไปเลยค่ะ มันใช่เลย นี่แหละสิ่งที่ตามหามานาน รสชาติที่คุ้นเคย รสชาติของวันวาน รสชาติของเด็กๆ ทำไมนะมันหากินยากแท้


วันนี้อยู่บ้านทำงานบ้าน กินลูกชิ้นปิ้ง ได้มาเปิดบันทึก คือ เนี่ยแหละ ชีวิตในต่างแดนของเรา กินอยู่อย่างไทยที่แท้ทรูมันเป็นอย่างนี้เอง
คอนเส็ปของพลอยศรีก็คือ อยากกินอะไรก็ทำเอง วัตถุดิบมีในตลาด ขาดแค่ลงมือทำ ถ้าเราขยันทำสักนิดเราก็จะได้กินทุกสิ่งที่เราปราถนา อยู่มุมไหนของโลกก็ไร้ซึ่งปัญหา เพราะเราทำเองได้
ครั้งนี้ทำครึ่งกิโล ขี้เกียจทำเยอะ เพราะว่ามันเกะกะตู้เย็น เราออกตลาดทุกวันเสาร์ ทำเก็บไว้แค่พอใช้ เราไม่ได้กินทุกวัน ถ้าทำเยอะๆเราก็ต้องเร่งกินให้มันหมด ทำให้ไปกินอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นพลอยศรีก็เลือก ทำแค่อย่างละพอเพียง และก็กินสลับๆกันไป สองสามมื้อกำลังดี ได้มีความสุขไม่ทันเบื่อนะคะ
วันนี้ก็ต้องไปแล้ว ก่อนไปทิ้งท้ายมีขนมถ้วยฝากไว้ด้วย กินลูกชิ้นปิ้งแล้วกินขนมต่อสองถ้วย ขนมถ้วยอันนี้ทำเมื่อวานเพราะเพื่อนอยากจะกินจึงร้องขอมา พลอยศรีก็จัดการทำให้ทันที เพราะวัตถุดิบเรามีพร้อม ทำเสร็จแคะไปฝากร่อนสวยงามแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้รีบแคะใส่กล่องออกไปเพราะว่าสายแล้ว เพื่อนกินบอกว่านุ่มมาก ฟินมาก คนทำก็หน้าบานเป็นทานตะวัน คริคริ

วันนี้ขอตัวลาไปก่อนค่ะ ใกล้จะได้เวลาเตรียมอาหารเย็นให้ผู้ชายแล้ว มีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงพลอยศรีจะรีบไปเรียนภาษา จะๆตั้งแต่เช้าแต่ยังไม่ได้เรียนเลย เดี๋ยวจะหมดวันซะก่อน ตั้งเป้าไว้วันละหนึ่งชั่วโมง ตอนไหนก็ได้แต่ต้องได้หนึ่งชั่วโมง พลอยศรีก็จะไปเริ่มและต่อจากนี้
สุขใจ ยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ
อ่านเรื่องอื่นๆ
