ผัดพริกผักบุ้ง ใส่ลูกชิ้น

สวัสดีวันแม่ค่ะทุกๆคน วันนี้วันแม่ของคนไทย ลูกๆหลายๆคนคงเดินทางกลับบ้านไปหาแม่กันเนาะ ส่วนพลอยศรีวันนี้ก็ไม่ได้กลับค่ะ แต่ว่ารักแม่ทุกวัน และก็ไหว้แม่ผ่านหน้าจอ ฮาฮา ก็เดี๋ยวนี้มันยุค5G เนาะ กลับบ้านทางโทรศัพท์สะดวกกว่าเดินทางไปเป็นไหนๆ ประหยัดทั้งเวลา และปัจจัย อยู่ที่ไหนในมุมโลกเราก็กลับบ้านไปเห็นหน้ากันได้ตลอดเวลา สามารถพูดคุย กินข้าวด้วยกันผ่านมือถือ ฮาฮา

เอาหละค่ะ วันนี้เนื่องในโอกาสวันแม่ พลอยศรีก็เลยอยากจะรำลึกเมนูอาหารบ้านๆที่เราเคยกินกับแม่ หรือแม่ผัดให้กินมาตั้งแต่เด็กๆ เมนูง่ายๆ อาหารพื้นบ้านที่หล่อเลี้ยงพลอยศรีให้เติบโตมาจนทุกวันนี้ นั่นก็คือ เมนูผัดพริกผักบุ้งนั่นเองค่ะ

นึกย้อนไปสมัยที่ยังอยู่บ้านนอกนั้น พวกเรากินผัดพริกผักบุ้งกันบ่อยมากๆ จำไม่ได้เลยว่ากินมากี่ร้อยครั้งจนกว่าจะโตและย้ายตัวเองออกจากบ้านหลังนั้นไปอยู่ที่อื่น จากนั้นพลอยศรีก็ไม่เคยกินผัดพริกผักบุ้งที่ไหนอีกเลย เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่เมนูที่เราจะไปสั่งกินตามร้านอาหาร และพอมามีบ้านมีครัวของตัวเองก็ไม่ได้คิดทำนะ เออ ก็แปลกดีค่ะ คิดว่าไม่ได้กินมาประมาณสิบกว่าปีแล้วนะนี่ มัวแต่ไปกินต้ม กินแกง แซนวิช พิซซ่า พาสต้า สปาเก็ตตี้ โรตีจิ้มแกง ฯลฯ

วันนี้พลอยศรีขอย้อนวันวานในวันพิเศษที่ห่างไกลพ่อแม่แบบนี้ด้วยเมนูเก่าๆที่พวกเราคุ้นเคยกันสักหน่อยก็แล้วกัน ขอเล่าเรื่องราวว่าทำไมเราถึงกินผัดพริกผักบุ้งกันบ่อยมากๆ คือ บ้านเราอยู่ชายคลอง และมีสวนก็มีหลอดมีร่องน้ำ บ้านยายอยู่ชายแม่น้ำ มีหลอดน้ำตามไร่นา บ้านปู่ย่าก็มีบ่อน้ำ อยู่ริมคลองอีกเช่นกัน คือพวกเราในวงศ์วานว่านเครือทุกคนล้วนอยู่ใกล้ชิดติดน้ำกันหมดเลยค่ะ และผักบุ้งมันก็เกิดมีเลื้อยทอดยอดอ่อนๆให้เห็นตลอดเวลา ยิ่งได้น้ำใหม่ หรือตามดินแฉะๆที่มีฝนพรำ ผักบุ้งยอดอ่อนๆจะชวนให้เด็ดกิน

ด้วยความที่อยู่ติดน้ำ ชายนา กุ้งหอย ปูปลาจึงหาง่าย ผักบุ้งก็ทั่วไป เมนูหลักๆที่วนไปวนมา คือ ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งลวกจิ้มน้ำพริก ผักบุ้งผัดพริกแกง ซึ่งเจ้าผักบุ้งผัดพริกแกงก็จะมีผัดกับปลาสดบ้าง ผัดกับปลาทอดบ้าง พวกปลานิล ปลาหมอ ปลาช่อนนา เอามาผัดอร่อยจริงๆ บางช่วงไม่มีปลา แต่มีหมูเราก็ยังไม่พ้นผัดพริกผักบุ้งกับหมูอยู่ดี ฮาฮา

กินจนรู้สึกหลอนเลยนะ และด้วยว่าเราเป็นคนชนบทไปบ้านไหนในหมู่ญาติจะพี่ป้า น้าอา ย่า ยาย พอไปถึงเวลาเราก็เดินเข้าครัวไปเปิดตู้กับข้าวดูไง “วันนี้แกงไรกิน ขอกินหน่อย” เปิดไป ชะแว๊บ ถึงกับต้องอุทานออกมา “ผัดผักบุ้งอีกและ ที่บ้านก็ผัดผักบุ้งหนีจากผักบุ้ง มาเจอผักบุ้ง ฮาฮา” ชาวไร่ชาวสวน ฝนตก ก็มีผัก มีปลาเหมือนๆกันเนาะ เค้าบอกว่ามันคือ กับข้าวที่ไม่ต้องซื้อต้องหา เดินไปเด็ดๆเอาริมน้ำ ส่วนปลาก็ดักรอบดักไซเอา ถ้าไปกินอย่างอื่นก็จะต้องเสียเงินไปแลกซื้อมา

และนี่ก็เลยทำให้พลอยศรีเติบโตมากับเมนูผักบุ้ง และช่วงหนึ่งเราก็ลืมเลือนไป ทุกวันนี้พลอยศรีรู้สึกสนุกกับการบันทึกเรื่องราวมากมาย เพราะรู้สึกว่าหลายๆเมนูชวนให้พลอยศรีย้อนเวลากลับไปในวันวาน พอได้บันทึก ทำให้นึกถึง ทำให้ได้ยิ้มกริ่มออกมา

จริงๆแล้วเราเติบโตมาด้วยสิ่งง่ายๆนะ เราไม่ได้ถูกเลี้ยงมาอย่างฟุ่มเฟือยหรือสามารถเลือกกินได้ เพราะถ้าวันไหนบ้านเราผัดพริกผักบุ้ง ก็จะผัดกระทะใหญ่ให้ตักกินไปทั้งวัน พอสายๆแล้วผักมันก็จะดำๆ เราก็ไม่มีตัวเลือกอื่นให้ปฏิเสธนะ ถ้าวันไหนแกงส้มผักบุ้งเราก็แกงหม้อโตกินเช้า กลางวัน เย็น ไม่มีตัวเลือกอื่นเช่นกัน ไม่ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย ก็กินมาไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร การเติบโตมาแบบง่ายๆ ทำให้ปัจจุบันเราไม่รู้สึกว่าชีวิตมันยาก ส่วนใหญ่ที่ยากล้วนแล้วแต่เราสมมุตกันไป ถ้ามองแค่แก่น เราก็กินแค่อิ่ม แต่ถ้าเมื่อไหร่ใส่เปลือกเข้าไปมากๆ เราก็จะปรุงกันไม่ยอมสิ้นสุด พลอยศรีรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

ว่าและก็มาทำผัดพริกผักบุ้งง่ายๆสไตล์พลอยศรีกันดีกว่าค่ะ วันนี้ผัดกับพริกแกง แต่ใช้ลูกชิ้นแทนเพราะไม่มีปลาทอด มีปลาสด แต่ไม่อยากกิน ปลาทอดก็ขี้เกียจทำ ฮาฮา ใช้ลูกชิ้นง่ายดี

ผัดง่ายๆ แค่เอาพริกแกงไปผัดกับน้ำมันให้กลิ่นหอมจนพริกแตกมัน ใส่ใบมะกรูดลงไปสักหน่อยเพิ่มความหอม จากนั้นก็ใส่ลูกชิ้นลงไปผัดไปมาและทำการปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายนิด น้ำปลาหน่อยนึง ได้เผ็ด เค็ม หวานลงตัว ก็ใส่ผักบุ้งที่เราหั่นท่อนๆแล้วลงไป เติมน้ำสักเล็กน้อยได้ถ้าต้องการ ผัดไปมาสักครู่พอผักสลดนุ่มลง ก็ปิดแก็ส รับประทานกับข้าวร้อนๆง่ายๆแค่นี้เองค่ะ

เสร็จแล้วค่ะกับข้าวง่ายๆ กินกับข้าวร้อนๆ อร่อยมากๆ พอกินแล้วรู้สึกคิดถึงวันวาน คิดถึงรสชาติเดิมๆมันใช่เลย รสชาตินี้แหละไม่หนีกันมากนัก แต่ถ้าผัดจากปลา หรือหมูก็จะมีรสของเนื้อสัตว์นั้นๆผสมในน้ำแกงขลุกขลิก แต่เพราะใช้ลูกชิ้นรสของลูกชิ้นก็โดดเด่นออกมา รวมๆก็คืออร่อยดีค่ะ ตอนกินเหยาะน้ำปลานิดหน่อย อื้อฮือ กินข้าวได้เยอะเลย

เนื่องจากพริกแกงเผ็ดพลอยศรีปั่นเองมันก็เลยเผ็ดจริงๆค่ะ ใช้พริกขี้หนูแห้งผสมลงไปด้วย เจอข้าวร้อนๆก็ร้อนประทุค่ะ ดังนั้นเลยต้องทอดไข่ดาวมาช่วยบรรเทาเผ็ดไปหนึ่งฟองรู้สึกดีขึ้นมาเป็นกอง ง่ายๆ สบายๆค่ะ เป็นอาหารที่กินแล้วรู้สึกมีความสุข และอิ่มเอม

ทุกวันนี้พ่อของพลอยศรีก็ยังผัดพริกผักบุ้งกับปลา กับหมูอยู่ เพียงแต่พลอยศรีไม่ได้ไปอยู่กินด้วยเท่านั้นเอง แต่ถ้าโทรไป ถามว่ากินข้าวแกงอะไร บางทีก็จะได้คำตอบว่า ผัดพริกผักบุ้ง อิอิ เมนูนี้ยังคงอยู่คู่ครัวชนบทต่อไป ตราบใดที่ผักปลายังหาได้ แต่ที่บ้านนอกเราแกงจะไม่ได้ใช้ผักบุ้งจีนแบบที่พลอยศรีใช้นะ จะใช้ผักบุ้งสีแดงม่วงๆ ซึ่งเรามักจะเรียกกันว่า ” ผักบุ้งแดง หรือผักบุ้งนา” และเวลาผัดก็จะไม่ใช้มีดหั่นเป็นท่อนนะ แต่จะหยิบเป็นกำๆเอามาตบอัดกับอุ้งมือให้แตกๆ และก็บิดหักเป็นท่อนๆใส่กระทะเลย เค้าบอกว่าวิธีนี้อร่อยกว่าใช้มีด พลอยศรีก็ถูกสอนและทำมาแบบนั้นตลอดถ้าต้องลงครัวทำกับข้าวเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ตบแล้ว หั่นเลย ฮาฮา

และแล้วมื้ออร่อยแห่งประวัติศาสตร์ก็ผ่านไปพลอยศรีว่าในชีวิตเรามีเรื่องราวต่างๆมากมายเลยที่ลืมเลือนไป และเราก็มาวุ่นวายอยู่กับสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบ เต็มไปด้วยการบูลลี่ ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม หน้าที่การงาน การใช้ชีวิต การดำรงอยู่ แต่ถ้าเรานึกย้อนกลับไปในวันวานว่าเราเติบโตมาอย่างไร และค้นหาจุดยืน จุดแข็งของเราให้เจอ ไม่โอนอ่อนผ่อนตามไปกับคำเปรียบเทียบ และภาพถ่ายที่ยั่วยวนจากสังคมรอบตัว เราก็จะสบายๆ แข็งแกร่ง กินได้ อยู่ง่าย ใช้ชีวิตไม่ลำบากแน่นอนค่ะ

บางทีอาหารก็บ่งบอกถึงรากเหง้าในความเป็นตัวเรา ถ้ารากแก้วของเราแข็งแรงเสียแล้ว รากฝอยจะขาดหายไปบ้าง หรือ แตกแขนงไปหากินที่อื่นๆบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะมันช่วยให้เราเติบโต และมีความสุขค่ะ คริคริ สำหรับวันนี้ สุขใจยิ้มกว้าง สวัสดีค่ะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s